ผู้เสียหายนับร้อย โร่ให้ข้อมูลทหายความติดตามแอพพลิเคชั่น DODO global ปิดแอฟเชิดเงินหนี

ผู้เสียหายนับร้อย โร่ให้ข้อมูลทหายความติดตามแอพพลิเคชั่น DODO global ปิดแอฟเชิดเงินหนี

ผู้เสียหายนับร้อย โร่ให้ข้อมูลทหายความติดตามแอพพลิเคชั่น DODO global ปิดแอฟเชิดเงินหนี

ที่โรงแรมธันยาอินน์ อ.เมือง จ.เชียงราย ผู้เสียหายจากแอพพลิเคชั่น DODO global เริ่มทยอยกันมาให้ปากคำกับกลุ่มทนายใจดี นำโดย นายทนาย ชัลวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความกลุ่มทนายใจดี ที่รับเรื่องช่วยเหลือผู้ที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ “DODO global” แอพพลิเคชั่นที่ชวนให้คนมาร่วมลงทุนในแอพพลิเคชั่น อ้างว่าสามารถจ่ายผลตอบแทนราคาสูงจากการขายของออนไลน์ กลไกการทำงานของแอพนี้ จะมีหน้าม้าคอยโพสต์เชิญชวนในกลุ่มหางานออนไลน์ต่างๆ โดย “DODO global” จะใช้วิธีการโอนเงินเข้าไปเปิดยอดเพื่อเป็นต้นทุน ตั้งแต่ 500 ขึ้นไป จากนั้นจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 25-40 บาทต่อการทำงาน 1 ครั้ง หากมีข้อสงสัย สนใจจะลงทุน ให้เข้าร่วมกลุ่มไลน์ ซึ่งเป็นไลน์กลุ่มปิด ซึ่งจะมีแอดมินคอยให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการชวนเพื่อนมาร่วมลงทุนคล้ายกับแชร์ลูกโซ่

หลายคนที่หลงเข้ามาเพราะความไว้ใจจากเพื่อนฝูง คนใกล้ชิดที่ชักชวนให้ร่วมลงทุน เมื่อโหลดแอพแล้ว แอดมินจะแนะนำวิธีการสมัครสมาชิก และให้เติมเงินเข้าไป จากนั้นจึงเริ่มทำงาน โดยให้กดสั่งซื้อสินค้าซ้ำๆ วันละ 20-60 ครั้ง แต่ไม่ได้ใช้เงินซื้อจริง จากนั้นจะมีรายได้เข้าวอลเล็ต และสามารถกดถอนเงินสดได้ โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ นอกจากนี้ยังได้ค่าคอมมิชชั่นจากการเชิญเพื่อนมาร่วมเป็นสมาชิก ซึ่งรายได้ในแต่ละวันขึ้นอยู่กับการเติมเงินเข้าแอพพลิเคชั่น หากเติมหลักพันก็ได้หลักพัน เติมหลักแสนก็ได้หลักแสน ทำให้มีเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

โดยในจังหวัดเชียงราย มีผู้ตกเป็นเหยื่อ ประมาณ 100 ราย โดยบางแอพพลิเคชั่นทางแอดมินอ้างว่า ระบบโอนเงินมีปัญหา จึงไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้ในวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา จนกระทั่งแอพพลิเคชั่นถูกลบไปในวันที่ 9 ก.พ. ว ไม่สามารถล็อกอินเข้าไป ส่วนยอดเงินที่ค้างอยู่ในระบบก็หายไปด้วย

นางประกายแก้ว ขอสงวนนามสกุล อายุ อายุ 38 ปี ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนเอง ได้รู้จักแอฟพลิเคชั้นนี้จากป้าข้างบ้านโดยครั้งแรกได้ลงทุนไป 500 บาท เมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 โดยให้ปั่นบิลประมาณ 60 ครั้งต่อวัน จะได้คอมมิชั่นอยู่ที่ 17 บาท แล้ววันที่ 8 ก.พ.64 ก็ได้ไปพบกับเพื่อนอีกคนที่เล่นอีกสาย แอพพลิเคชั่นประเภทเดียวกันบอกว่าต้องลงเงินเยอะอีกหน่อยถึงจะได้ค่าคอมเยอะเพราะเล่นแล้วถอนเงินได้ ในวันที่ 8 ก.พ.ก็เลยลงเงินเพิ่มอีก 10,000 บาท แล้วก็เอาชื่อลูก กับ แฟน ลงต่อเพื่อเป็นสายงาน เพื่อจะได้เปอร์เซนต์จากการแนะนำ โดยเพิ่มเงินลงไปอีก 17,000 บาท วันที่ 9 ก.พ. ลงเงินเพิ่มไปอีก 20,000 บาท และในวันที่ 9 ก.พ.เองก็ได้เริ่มมีคนในกลุ่มไลน์แจ้งง่าถอนเงินไม่ได้ ก็เลยลองกดถอนเงินดูแต่ยอดก็ไม่เข้า แล้วพอวันที่ 11 ก.พ. แอพพลิเคชั่นก็ปิดตัวไป จึงได้ไปแจ้งความในวันที่ 12 ก.พ.ทำให้สูญเสียเงินไป 47,500 บาท แต่บางคนลงทุนไปแล้วและเริ่มทำมานานทำให้ได้ทุนคืนแล้ว ก็ไม่ได้มาแจ้งความเพราะถือว่าได้เงินค์นหมดแล้ว

ด้าน น.ส.ภิมลภร สงวนนามสกุล อายุ 55 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองได้รับการแนะนำจากพี่สาว โดยลงทุนครั้งแรก 10,000 บาท จากนั้นก็ได้ทดลองถอนดู ก็ได้เงิน จึงได้ตัดสินใจลงเงินเพิ่มอีก 4 ครั้งรวมกว่า 100,000 บาท โดยเริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อวันที่ 8 ก.พ. พี่สาวถอนเงินแล้วไม่ได้จึงได้ลองถอนบ้าง โดยยอดเงินถอนออกจากระบบได้ แต่เงินไม่เข้าบัญชี ซึ่งตามปกติ ถ้าหากถอนในวันนี้ระบบก็จะโอนเงินเข้าบัญชีในอีกวันหนึ่ง โดยกลุ่มที่ลงทุนในแอพพลิเคชั่นนี้มีอีกหลายคน เพราะพี่สาวก็ได้รับการชักชวนจากเพื่อนบ้านอีกทอดหนึ่ง ในตอนนี้ก็ได้รวบรวมกับเพื่อนผู้เสียหายและยอดเงินมาให้ข้อมูลกับทางกลุ่มทนายใจดี เพื่อให้ทนายช่วยยื่นฟ้องดำเนินคดี และช่วยเหลือติดตามเงินคืน

นายชัลวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความ กลุ่มทนายใจดี เปิดเผยว่า จากการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นทราบมีการฉ้อโกงประชาชนโดยการหลอกให้ลงทุนออนไลน์ในแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า DODO global จากนั้นก็ได้มีการโหลดแอพพลิเคชั่นและได้ลงทุนไป โดยอ้างว่ามีสินค้าชายในแอพพลิเคชั่น lazada Shopee เมื่อเข้าไปในแอพพลิเคชั่น ก็จะมีตัวเขโชว์ว่าในวันนี้มียอดเงินปันผลเท่าไหร่ จะมีการเพิ่มเงินหรือไม่ จะถอนเงินหรือไม่ ซึ่งผู้ตกเป็นเหยื่อก็จะเพิ่มเงินลงเข้าไปอีก หลังจากนั้น เมื่อช่วงประมาณวันที่ 28 ม.ค.64 จนถึงวันที่ 8-9 ก.พ. โดยในระหว่างนั้น สามารถถอนเงินได้ แต่หลังวันที่ 8 ก.พ.ก็ไม่สามารถถอนเงินออจากแอพพลิเคชั่นได้ ผู้เสียหายจึงได้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดี เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีการส่งข้อมูลมา เชื่อว่าบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปนั้นจะเป็นบัญชี นอมินี หรือบัญชีทที่มีผู้นับจ้างเปิด โดยพบว่ามีบัญชีจากหลายหลายพื้นที่ทั้ง ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ สระบุรี รวมไปถึงภาคอีสานด้วย คาดว่ากลุ่มขบวนการน่าจะไปจ้างเปิดบัญชี ซึ่งเชื่อว่า ณ ขณะนี้มีผู้ถูกหลอกจากแอพพลิเคชั่นนี้ทั่วประเทศไม่เฉพาะจังหวัดเชียงราย ซึ่งในวันนี้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวก็ได้ถูกปิดไปแล้ว

“สำหรับการดำเนินคดีนั้น ในส่วนของคดีอาญา ผู้เสียหายบางส่วนก็ได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว บางส่วนก็แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเราก็จะได้รวบรวมข้อมูลเพื่อไปแจ้วความดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของคดีแพ่งทางทีมทนายใจดี ที่อยู่ในภาคเหนือ และภาคต่างๆ หากได้รับการขอความช่วยเหลือมาทางเราก็จะรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มที่เป็น นอมินีในการเปิดบัญชีก่อน ในเรื่องของคดีผู้บริโภคได้ทันที อยากฝากถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้รีบไปแจ้วความดำเนินคดีเพราะคดีดังกล่าวอยู่ในช่ายของ การฉ้อโกง หรือฉ้อโกงประชาชน ซึ่งจะมีอายุความ 3 เดือน หากรู้ตัวก็ให้รีบไปแจ้งความ เพื่อจะได้เร่งดำเนินคดี ในส่วนของจังหวัดเชียงรายพบว่ามีผู้เสียหาย 100 กว่ารายที่ได้รับรายชื่อมา โดยได้มอบหมายให้กับทีมทนายความเพื่อช่วยดำเนินการทั้งการประสานงาน หาพยานหลักฐานเพิ่ม และจะยื่นให้ทาง DSI รับเป็นคดีพิเศษ เพื่อจะได้ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี” นายชัชวาลย์ กล่าว

ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย

ร้องทุกข์ ร้องเรียน