สุโขทัย เด็กนร.โพสต์ต่อว่าครูใช้คำพูดไม่ดีกับตนจนมีคนเข้ามาคอมเม้นท์และแชร์กันจำนวนมาก
จากกรณีในโลกโซเชียลมีคนเข้าไปคอมเม้นท์และแชร์ เฟสบุ๊ค บอส วิ่งป่าราบ กันกันจำนวนมากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบ เจ้าของโฟส บอส วิ่งป่าราบ หรือน้องบอส ถึงกรณีที่ได้โพสข้อความว่า ” ณ คุณครูโรงเรียนชื่อดังเเห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัย-สมควรเหรอครับแบบนี้ถึงผมจะเคยทำผิดทำไม่ดีมาแต่คนเป็นครูก็ควรจะให้โอกาสคนที่คิดกลับตัวมั้ยครับไม่ใช่มาพูดดูถูกกันแบบนี้ผมยอมรับผมเคยติดสิ่งที่ไม่ดีเเต่ตอนนี้ผมได้เลิกขาดเป็นที่เรียบร้อยเเล้วใช่ครับผมเคยทำผิดพลาดมาก่อนก็จริงแต่คนเป็นครูควรมีหน้าที่ช่วยเหลือหรือให้กำลังใจเด็กไม่ใช่เหรอครับไม่ควรมาใช้อารมณ์และคำพูดแบบนี้คุณมีจรรยาบรรณความเป็นครูอยู่รึป่าว-นี่หรือบุคลากร โรงเรียนชื่อดังในจังหวัดสุโขทัยโรงเรียนแต่กลับปล่อยให้มีบุคลากรประพฤติแบบนี้มีการพูดหมิ่นประมาทเด็กนักเรียนเเบบนี้เหรอครับคุณมีความเป็นครูอยู่หรือป่าวคนที่ไม่รู้ว่าความจริงอะไรเป็นยังไงก็อย่าพูดไปมั่ว กฎหมายมีข้อหาหมิ่นประมาทอยู่นะครับจะทำอะไรก็คิดดีๆคิดเยอะๆนะครับ”
โดยน้องบอส ได้บอกว่าที่โพสนั้นเป็นเรื่องจริง เนื่องจากตนเองติดศูนย์ ก็ไปเรียนปรับเกรด ตามปกติ แต่ในวันเกิดเหตุ ตนเองป่วยจริงจึงได้โทร.ไปหาแต่ครูไม่รับสาย จึงไลน์ไปบอกครูว่าตนเองป่วย คุณครูก็ตอบมาในไลน์ตามที่โพสไว้ ซึงรุ่นก่อนๆก็จะเจอแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่มากแบบนี้ ทำให้ตนเองไม่พอใจที่ครูพูดแบบนี้ หลังจากนั้นตนเองก็ไดให้แม่ดูข้อความแม่ก็ได้ตอบไลน์คุณครูไปตามที่ลงในเฟส จริงก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ไม่อยากให้เกิดกับรุ่นน้อง ไม่ได้อยากให้โรงเรียนเสียชื่อแต่คุณครูพูดแรงเกินไป พูดไม่เหมาะสมกับนักเรียนจริง และยังมีคนโทรมาบอกให้ลบโพส แต่ตนเองก็ยืนยันว่าไม่ลบเพราะครูพูดแบบนั้นจริงๆ และยังยื่นยัยว่าที่โพสไปนั้นเป็นความจริง เป็นเรื่องจริง ขณะที่ตอนนี้ผลการเรียนของตนได้แล้ว เกรด 2 และได้สมัครเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ครธรัฐศาสตร์
ขณะที่ นายมนตรี คงเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ในเบื้องต้นที่ทราบมาว่าเด็กติด ศูนย์ ต้องมาเรียนเพิ่มเติมเพื่อปรับเกรดทางครูก็มีการนัดเด็กมาเรียนเพิ่มเติม แต่เด็กมีการผิดนัดกับครูมาหลายครั้ง ครั้งนี้ก็เลยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในเบื้องต้นเลยคงต้องหาข้อเท็จจริงก่อน รับฟังข้อมูลจากทั้ง2ฝ่าย ดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ว่าเราจะลงโทษครูหรืออย่างไรก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ที่แน่ๆเลยคือความไม่เหมาะสมย่อมมีอยู่แล้ว พร้อมที่จะคุยกับทั้ง 2 ส่วน อีกทั้งจะดูแลในเรื่องของการเรียนของนักเรียนคนนี้ด้วย ดังนั้นเรื่องผลกระทบกับเหตุการณ์นี้ไม่มีผลกระทบกับเด็กแน่นอน ในส่วนของการแสดงการพูดจาของครูอาจารย์นั้น ทางโรงเรียนต้องนำไปแก้ไขอย่างดีที่สุด
ฤดี ธนวณิชย์วรชัย สุโขทัย