ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ ติดตามการป้องกันชายแดน และสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 พื้นที่ชายแดนภาคใต้
(25 พ.ค.64) ที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พลเอกพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกลงพื้นที่ ติดตามการป้องกันชายแดน และสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 พื้นที่ชายแดนภาคใต้ พร้อมประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 โดยมีพลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้บังคับบัญชาระดับสูงหน่วยงาน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบกมีความห่วงใยพื้นที่ชายแดนเป็นอย่างยิ่ง จึงสั่งการให้ลงมาติดตามสถานการณ์ พร้อมนำข้อสั่งการ ที่ให้ทหารทุกเหล่าทัพ และตำรวจ จับตาคุมเข้มเฝ้าระวังแนวชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำอย่างเข้มข้น โดยให้ประสานการทำงานกับ หน่วยงานในพื้นที่ คุมเข้มพื้นที่ชั้นใน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย โดยเฉพาะชายแดนติดเมียนมาและมาเลเซีย ที่จำเป็นต้องเฝ้าระวังคัดกรองและควบคุมโรคอย่างจริงจัง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรง และเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่เข้ามายังในประเทศ จนทำให้สถานการณ์บานปลายเกินการควบคุม
ขณะเดียวกันขอให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง ติดตามตรวจสอบกระแสข่าวข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยให้ชี้แจงทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาการลดทอนความร่วมมือ ความเชื่อมั่น และการสนับสนุนบริหารจัดการควบคุมโรค รวมทั้งการกระจายวัคซีนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะนายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น กำลังป้องกันชายแดน บูรณาการการทำงานร่วมเพื่อหยุดการลักลอบให้ ได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ระบบการอำนวยการร่วมแนวชายแดน ที่ได้ทำโดยตลอด เชื่อมั่นมีประสิทธิภาพ เพียงแต่ต้องปรับเสริมเพิ่มเติม ในจุดที่ยังเป็นช่องว่าง โดยขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารที่เสริมลงมาดูแลทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ด้วยในพื้นที่ชายแดนใต้ แตกต่างจากพื้นที่ชายแดนแถบอื่น เนื่องจาก ประชาชนที่อยู่อาศัยทั้ง 2 ฝั่ง มีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติ ซึ่งมีวิถีชีวิตเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกัน จไเป็นต้องเร่งสร้างความตระหนักรู้ ให้ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนได้เข้าใจในความรุนแรงและอันตรายของโรค ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย
ส่วนความกังวลเรื่องของเชื้อสายพันธุ์แอฟริกา ที่อาจมีการระบาดอยู่นอกพื้นที่ควบคุม ทางจังหวัดและส่วนงานที่เกี่ยวข้องได้มีการวางแผนในการเข้าตรวจเชิงรุกในกลุ่มก้อนที่มีการระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคไม่ให้มาขยายเชื้อสู่วงกว้างได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้มงวดเรื่องการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย ไม่สร้างคลัสเตอร์ใหม่ ไม่ปกปิดข้อมูล เพราะจะนำความเดือดร้อนเสียหายมาได้ เชื่อมั่นจากประสบการณ์การทำงาน เมื่อครั้งอยู่ในพื้นที่และเกิดการระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 รอบแรก การบูรณาการร่วม การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อสามารถควบคุมได้
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน