กาญจนบุรี แก๊งหม่องขับกระบะขน จยย.ส่งนายทุนชาวเมียนมาที่ชายแดนกลางดึก ขากลับเตรียมซุกแรงงานเถื่อนเข้าไทย 19 คน สุดท้ายโดน ทหาร-ตชด.ตร.ฝ่ายปกครอง รวบยกชุดกลางป่า ของกลางกระบะ 2 คัน จยย.3 คัน
จากนโยบายของนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.ดกาญจนบุรี พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ นายสาวิตร เจียมจิรพร นอภ.ไทรโยค พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.กก.ตชด.13 พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.จักษ์ ยังให้ผล ผกก.ตม.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.ไทรโยค
ให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจที่อยู่เส้นทางตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมา ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นเพื่อเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเฉพาะยาเสพติดและการลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยของแรงงานชาวเมียนมาโดยผิดกฎหมาย ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตามช่องทางเข้าออกตามธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ระยะทาง 371 กิโลเมตร
วันนี้ 1 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.ที่136 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการนำรถจักรยานยนต์ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ผ่านขั้นของศุลกากร รวมทั้งจะมีการนำพาแรงงานชาวเมียนมา ข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ขบวนการดังกล่าวจะใช้ช่องทางธรรมชาติบริเวณชายป่าบ้านวายอ หมู่ 2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาข้างต้นทราบ จากนั้นจึงสนธิกำลังไปซุ่มโป่งบริเวณชายป่า จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บว 4170 กาญจนบุรี บรรทุกรถจักรยานยนต์มาด้วยจำนวน 1 คัน มีคนขับมากับเพื่อน รวม 2 คน โดยมีรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒศ 3407 กทม.วิ่งตามหลังมา ที่กระบะท้ายบรรทุกรถจักรยานยนต์มาด้วย จำนวน 2 คัน โดยมีคนขับและเพื่อนมาด้วยกันรวม 4 คน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มโป่งเฝ้ารอจนกระทั่งพบระหว่างกำลังยกรถจักรยานยนต์ลงจากรถยนต์กระบะพบกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา ทั้งชายหญิงจำนวนมาก เดินออกมาจากชายป่าเพื่อรอขึ้นรถยนต์ เมื่อได้จังหวะเจ้าหน้าที่ที่กำลังซุ่มโป่ง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมกลุ่มแรงงานและคนขับรถยนต์กระบะได้ทั้งหมด
รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีน้ำตาล มีนายโลโซ ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา เป็นคนขับมากับนายชยากร ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา ด้วยกันกระบะบรรทุกรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 ไอ สีขาว สภาพใหม่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน
ส่วนรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีขาว มีนายเซนโกอู ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา เป็นคนขับ โดยมีเพื่อนมาด้วยกันอีก 3 คน ประกอบด้วยนายมิชาออง นายอองเมียวทู และนายโซ้ง ทั้ง 3 ไม่มีนามสกุลเป็นชาวเมียนมา ด้วยกัน ส่วนท้ายกระบะบรรทุกรถจักรยานยนต์สภาพใหม่ จำนวน 2 คัน ประกอบด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 ไอ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
สำหรับแรงงานชาวเมียน ที่ถูกจับกุมตัวเอาไว้ได้มีจำนวน 19 คน เป็นชาย 17 คน หญิง 2 คน หลังจากคุมตัวผู้ต้องหาทั้งทั้งหมดเอาไว้ได้ จึงนำตัวพร้อมเคลื่อนย้ายของกลางมาที่ สภ.ไทรโยค เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่ขับรถยนต์กระบะบรรทุกรถจักรยานยนต์ที่มาด้วยกัน จำนวน 6 คน คือผู้ต้องหาที่ 1-6 ให้การยอมรับสารภาพว่า พวกตนได้รับการว่าจ้างให้นำรถจักรยานยนต์ออกไปส่งให้กับผู้ว่าจ้างชาวเมียนมา ที่อยู่ชายแดนฝั่งตรงข้ามกับประเทศไทย จากนั้นให้ขนแรงงานจำนวนดังกล่าวไปส่งที่บริเวณสี่แยกบ้านเก่า ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี โดยจะมีคนมารับไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในอีกทอดหนึ่ง แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ 1-6 คือนายโลโซ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/ช หมู่ 5 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีน้ำตาล นายเซนโกอู อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 6 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว
นายชยากร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100(45)/พ หมู่ 3 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายนิชาออง อายุ 27 ปี นาย ออง เมียว ทู อายุ 19 ปี และนายโซ้ง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 369 หมู่ 4 ต.ดอนตะโก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในข้อหา “ร่วมกันพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยัง ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร”
นอกจากนี้ผู้ต้องหาที่ 1-2 คือนายโลโซ อายุ 43 ปี และนายเซนโกอู อายุ 21 ปี ยังถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 ข้อหา ฐาน “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม”
ส่วนแรงงานชาวเมียมาทั้ง 19 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความแห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
//////////////////////////////
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี