กาญจนบุรี ครั้งแรกของประเทศไทย หนุ่มข้าราชการเมืองนนท์ อายุ 34 ปี ป่วยโควิด-19 รับกินยาสมุนไพรหมอเณร 7 วัน หายป่วย

กาญจนบุรี ครั้งแรกของประเทศไทย หนุ่มข้าราชการเมืองนนท์ อายุ 34 ปี ป่วยโควิด-19 รับกินยาสมุนไพรหมอเณร 7 วัน หายป่วย

กาญจนบุรี ครั้งแรกของประเทศไทย หนุ่มข้าราชการ อายุ 34 ปี ป่วยโควิด-19 รับกินยาสมุนไพรหมอเณร 7 วัน หายป่วย ด้านหมอเณร วอนรัฐจับมือร่วมกันหันมาใช้สมุนไพร เพื่อให้ ปชช.มีทางเลือก

วันนี้ 04 มิ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากนายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร หมอยาสมุนไพรชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี เลขที่ 36 หมู่ 10 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ชาวจังหวัดนนทบุรี มาพบเพื่อยืนยันว่าหายจากอาการป่วยด้วยการกินยาสมุนไพรของหมอเณร ดังนั้นจึงเดินทางไปสมถามข้อเท็จจริงจากหมอเณร และชายคนดังกล่าวที่รักษาหายด้วยยาสมุนไพร

โดยเมื่อไปถึงพบหมอเณรรออยู่ภายในสำนักงานสำหรับจ่ายยา จึงเข้าไปสอมถามเพื่อสัมภาษณ์ โดยนายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร หมอยาสมุนไพรชื่อดัง เปิดเผยว่า จากข่าวมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กินยาสมุนไพรแล้วหายป่วยนั้น ตนยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง โดยผู้ป่วยชื่อสรรเพชร อาชีพรับราชการอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยผู้ป่วยรายดังกล่าวกำลังเดินทางมาพบตนที่สวนสมุนไพรเพื่อยืนยันกับสื่อมวลชนว่าป่วยแล้วกินสมุนไพรหายจริง

สำหรับยาสมุนไพรเราทำการรักษามานานกว่า 30 ปี ซึ่งสมุนไพรใช้รักษาอาการของโรคภูมิแพ้และไข้หวัดต่างๆ ให้หายได้ภายใน 7 วัน ซึ่งเชื้อโควิด-19 เป็นเชื้อตระกูลของไข้หวัดเมื่อกินยาสมุนไพร อาการป่วยติดเชื้อก็จะหายในเวลาใกล้เคียงกัน

และมีอยู่หลายคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงแต่ไม่กล้าที่จะไปตรวจที่โรงพยาบาลเพราะกลัวว่าจะต้องกักตัว เช่นบางรายเริ่มมีอาการเป็นไข้ ลิ้นไม่รู้รสจมูกไม่ได้กลิ่น เมื่อมาใช้ยาสมุนไพรอาการป่วยก็หาย และยังมีอีกหลายรายในหลายพื้นที่ที่เริ่มมีอาการแล้วมารับยาสมุนไพรไปกินก็หายกันทุกคน

จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น จึงอยากจะฝากไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และกรมแพทย์แผนไทยกระทรวงสาธารณสุข ว่าในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังวิกฤตอยู่ในตอนนี้ อยากให้ท่านหันมาใช้สมุนไพรเพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือก

เพราะการที่บ้านเมืองกำลังวิกฤตเราจะต้องมาร่วมมือกันในหลายๆฝ่ายเพื่อให้ประชาชนที่เจ็บป่วยได้มีทางเลือก ซึ่งตรงนี้มันจะเกิดประโยชน์อย่างมหาศาล หากเราจับมือกันได้สมุนไพรไทยของเราจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และต่อไปต่างประเทศจะหันกลับมาใช้สมุนไพรกันหมดเพราะว่าและที่สำคัญสมุนไพรจะมีประโยชน์ต่อมนุษยชาติทั่วโลกโดยแท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อเมาเวลาประมาณ 14.00 น.ผู้ป่วยรายดังกล่าวก็เดินทางมาถึง ทราบชื่อคือ นาย ส.(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาว จังหวัดนนทบุรี พร้อมกับให้สัมภาษณ์ข้อเท็จจริงว่า

ก่อนที่ตนจะติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากก่อนหน้านี้มีพนักงานของร้านกาแฟที่ตนไปนั่งดื่มอยู่เป็นประจำติดเชื้อโควิ-19 เมื่อตนทราบข่าวจึงคิดว่าตัวเราเองน่าจะลองไปตรวจหาเชื้อดูเนื่องจากขณะนั้นตนก็เริ่มมีอาการเป็นไข้ โดยตนไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 ผลการตรวจออกวันที่ 29 เม.ย.ว่าตนติดเชื้อโควิด-19

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ตนกักตัวอยู่ที่บ้านแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ไปรับ จากนั้นเวลา 20.00 น.เจ้าหน้าที่ได้มารับแล้วนำไปกักตัวที่ฮอสพิเทลซึ่งเป็นโรงแรมที่ใช้สำหรับกักตัวผู้ป่วยที่อยู่ย่านสีลม โดยการกักตัวในวันแรกนั้นไม่ได้ทำอะไร แต่จะมีหมอเข้ามาถามอาการดูว่าเรามีอาการอะไรบ้าง เช่นเจ็บหน้าอก มีอาการไข้ หรือเจ็บคอและมีน้ำมูกหรือไม่เท่านั้น จากนั้นวันที่สองก็แจ้งผลเอกซเรย์ พบว่าเชื้อไม่กระจายลงปอด ไม่แน่นหน้าอก ความดันเป็นปกติ ออกซิเจนในเลือดก็เป็นปกติ แต่สิ่งผิดปกติที่ตนสามารถรับรู้ได้ก็คือการที่จมูกไม่ได้กลิ่นซึ่งเป็นมาก่อนที่จะมากักตัว ซึ่งเราก็กังวลว่าตัวของเราเองจะเป็นอะไรหรือไม่

ระหว่างนั้นทางญาติได้โทรมาแจ้งว่าจะส่งยาสมุนไพรของหมอเณรมาให้ทดลองกินดูเพราะอาจจะทำให้อาการดีขึ้น ตนจึงส่งที่อยู่ไปให้ หลังจากที่นอนอยู่ฮอสพิเทลได้ 2 วันยาก็มาถึงซึ่งทางญาติแนะนำว่าถึงแม้ตนจะไม่เคยกินยาสมุนไพรก็ขอให้ทดลองกินดูเผื่อว่าอาการจะดีขึ้น ซึ่งก็ทำให้ตนรู้สึกอุ่นใจขึ้นเพราะขณะที่กักตัวอยู่ที่ห้องกักตัวที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ก็ไม่ได้รับยาอะไรเลยเพราะว่าหมอบอกไม่มีอาการ

ส่วนตัวของหมอเณรก็ได้แนะนำให้กินยาสมุนไพรชนิดผงวันละ 4 มื้อ คือเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ซึ่งตนก็ทำตามที่หมอเณรแนะนำ และหากมีอาการเจ็บคอหรือรู้สึกไม่สบายตัวก็ให้สลับมากินยาต้ม ซึ่งตนกินยาผงได้ไม่นานก็มีอาการรู้สึกเจ็บคอจึงเปลี่ยนมากินยาต้มแทน กินยาต้มได้ประมาณ 3 วันก็หายจากอาการเจ็บคอ

จากนั้นจึงกลับมากินยาผงใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งกินสลับกันไปมาตามที่หมอเณรแนะนำทุกอย่าง ซึ่งตนกินยาสมุนขณะอยู่ที่ห้องกักตัวได้ประมาณ 4-5 วันจมูกก็เริ่มได้กลิ่น กลิ่นแรกที่ได้รับคือยาผงที่มีกลิ่นฉุน ทั้งที่ก่อนหน้านี้จมูกไม่มีกลิ่นเลย แต่เมื่อได้รับกลิ่นแล้วรู้สึกว่ายาสมุนไพรเริ่มกินยากขึ้น

ซึ่งหมอเณรได้แนะนำว่ายาผงไม่ต้องใส่น้ำมาก ให้ใส่แค่เล็กน้อยจากนั้นผสมให้เข้ากันแล้วดื่มทันทีแล้วดื่มน้ำเปล่าตาม หลังจากทำตามคำแนะนำก็ทำให้อาการของตนดีขึ้นซึ่งก็ทำให้ตนมีความรู้สึกดีที่ได้กินยาสมุนไพรของหมอเณร เพราะถ้าหากตนไม่ได้กินยาสมุนไพรตัวนี้เข้าไปผมก็ไม่รู้เช่นกันว่าจนป่านนี้ตนจะมีอาการดีขึ้นหรือไม่ และถึงแม้ตนจะออกจากการกักตัวแล้ว ตนก็ยังกินยาสมุนไพรเพื่อเพิ่มภูมิคุ้นกันตามคำแนะนำของหมอเณรอยู่เป็นประจำ

แต่ทั้งนี้หลังจากที่ตนกักตัวอยู่ที่โรงแรมครบ 14 วัน ก็ไม่ได้มีการตรวจหาเชื้ออีกเลย โดยหมอได้แนะนำว่า ประมาณ 7-8 วันซากเชื้อโควิด-19 ก็จะตายไปเอง โดยให้ตนมากักตัวอยู่ที่บ้านอีกเป็นเวลา 14 วัน เมื่อครบกำหนด ซึ่งตนจะต้องไปทำงานและพบกับผู้คนและครอบครัว

เพื่อความมั่นใจว่าตนไม่ติดเชื้อโควิด-19 ตนจึงตัดสินใจไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งเพื่อตรวจภูมิคุ้มกันและหาเชื้อในวันที่ 28 พ.ค.64 ซึ่งการตรวจหาเชื้อออกในวันที่ 30 พ.ค.ผลออกมาพบไม่ติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นตนจึงมั่นใจว่าการกินยาสมุนไพรหมอเณรก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำให้หายจากการติดเชื้อโควิดได้ เพราะระหว่างที่กักตัวอยู่นั้นไม่ได้รับยาอะไรเลย

////////////////////////////////////////////////////////////////////


ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

(ผู้ป่วย ส.ต.ท.สรรเพชร ธนากรรฐ ตร.สันติบาล โทร 092-8840263)-(หมอเณร โทร-092-3299959)

กีฬา สุขภาพ ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม