เหตุฝนทิ้งช่วง 2 ส.ส.พปชร.พิจิตร-นครสวรรค์พาชาวนาวอน ชป.ขอโควต้าน้ำแต่ให้รอไปก่อนอ้างเหตุต้องส่งน้ำช่วยลพบุรีทำน้ำประปา

เหตุฝนทิ้งช่วง 2 ส.ส.พปชร.พิจิตร-นครสวรรค์พาชาวนาวอน ชป.ขอโควต้าน้ำแต่ให้รอไปก่อนอ้างเหตุต้องส่งน้ำช่วยลพบุรีทำน้ำประปา

เหตุฝนทิ้งช่วง 2 ส.ส.พปชร.พิจิตร-นครสวรรค์พาชาวนาวอน ชป.ขอโควต้าน้ำแต่ให้รอไปก่อนอ้างเหตุต้องส่งน้ำช่วยลพบุรีทำน้ำประปา

วิกฤตฝนทิ้งช่วงส่งผลนาข้าว 9 ตำบล 3 อำเภอ 2 จังหวัด กว่า 7หมื่นไร่กำลังส่อเค้ายืนต้นแห้งตาย นายสุรชาติ ส.ส.พปชร.พิจิตร และ นายสัญญา สส.พปชร. นครสวรรค์ เป็นแกนนำพาชาวนาออกตามล่าหาน้ำที่มีมวลน้ำจำกัดต่างฝ่าย ต่างอยากได้น้ำ เข้าเจรจากับชลประทานเพื่อขอโควต้าน้ำเพิ่ม แต่ได้รับคำตอบว่าสถานการณ์ภาคกลาง โดยเฉพาะที่ จ.ลพบุรี กำลังมีวิกฤตขาดน้ำดิบเพื่อทำประปา ดังนั้นต้องช่วยเรื่องน้ำกินน้ำใช้ก่อน ส่วนน้ำทำนาที่มีมวลน้ำอยู่แค่ก้อนเดียว ขอให้ ส.ส.ทั้ง 2 จังหวัด ทำความเข้าใจกับเกษตรกรและกลุ่มผู้ใช้น้ำต้องสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนจัดรอบเวรแบ่งน้ำกันทำนา ตั้งความหวังกรมอุตุฯคาด 7-12 มิ.ย. 64 จะมีฝนอาจทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้บ้าง

วันที่ 4 มิ.ย. 64 นายสุรชาติ ศรีบุษกร ส.ส.พปชร.พิจิตร เขต 3 และ นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.พปชร. นครสวรรค์ ได้ร่วมกันลงพื้นที่โดยได้ไปพบกับ นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานดงเศรษฐี และ นายทวนชัย เลี้ยงสุข ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าบัว เพื่อติดตามความคืบหน้าของการกำจัดวัชพืชในคลอง C40 ที่บริเวณ ต.วัดขวาง อ.โพทะเล เพื่อเปิดทางน้ำ ซึ่งมีนายสุบิน ศรีบุศกร รองนายก อบจ.พิจิตร นำรถแบ็กโฮของ อบจ.พิจิตรมาดำเนินการในการกำจัดวัชพืชเพื่อเปิดทางน้ำส่งน้ำจากอ.โพทะเล ไปยังท้ายคลอง ซึ่งคลอง C40 เส้นนี้มีความยาว80 กม. ต้นคลองอยู่ที่ ต.ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร ท้ายคลองอยู่ที่ ต.บางคลานและไหลลงแม่น้ำพิจิตร ส่วนคลองที่อยู่ในความดูแลของโครงการส่งน้ำชลประทานท่าบัวคือ คลอง C1 ที่ ส่งน้ำไปยัง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์

แต่ปรากฏว่าขณะนี้การส่งน้ำของกรมชลประทานที่อยู่ในความดูแลในพื้นที่จังหวัดพิจิตรไม่สามารถกระจายน้ำไปได้ตามที่เกษตรกรต้องการ ทำให้นาข้าว 2 จังหวัด คือ พิจิตร-นครสวรรค์ ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.โพทะเล อ.บางมูลนาก อ.ชุมแสง ในพื้นที่ 9 ตำบล ประกอบด้วย ต.ท่าบัว ต.บ้านน้อย ต.บางคลาน ต.ท่านั่ง อ.โพทะเล , ต.หอไกร ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก , ต.ท่าไม้ ต.ฆะมัง ต.พิกุล อ.ชุมแสง นาข้าวรวมกว่า 7 หมื่นไร่ ที่อยู่ในเขตรับน้ำจากกรมชลประทานส่อเค้าว่านาข้าวจะขาดน้ำแห้งตาย ชาวนาจาก 2 จังหวัด จึงไปร้องทุกข์กับ ส.ส.พิจิตร และ ส.ส.นครสวรรค์ ให้ช่วยเป็นคนกลางเปิดโต๊ะเจรจาขอแบ่งน้ำจากพื้นที่จังหวัดพิจิตรไปยังจังหวัดนครสวรรค์บ้าง โดยมี นายวัฒนา เจริญจิตร นายอำเภอโพทะเล และ สจ.พิจิตร- สจ.นครสวรรค์ รวมหลายท่านประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ของชลประทาน

ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ที่จะขอโควต้าน้ำเพิ่มขึ้น กรมชลประทานไม่สามารถตอบสนองได้ อีกทั้งที่จะขอใช้แพสูบน้ำ สูบน้ำจากแม่น้ำน่านก็ไม่สามารถอนุมัติให้ได้ เหตุผลเพราะน้ำในเขื่อนสิริกิต์และน้ำในเขื่อนนเรศวรมีจำนวนจำกัด รวมถึงสถานการณ์น้ำของภาคกลางโดยเฉพาะที่จังหวัดลพบุรีกำลังวิกฤตภัยแล้งขาดน้ำดิบในการทำน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค ดังนั้นจึงต้องส่งน้ำไปช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำกินน้ำใช้ก่อน

โดยสรุปก็คือ มวลน้ำที่มีอยู่จำกัดนี้ขอให้ผู้นำและเกษตรกรต้องช่วยกันบริหารจัดการน้ำจัดรอบเวรแบ่งปันน้ำซึ่งกันและกันให้เป็นธรรมและทั่วถึง ซึ่งคาดว่าปัญหาต่างๆจะคลี่คลายลงได้หากเป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 7-12 มิ.ย. 64 จะมีฝนตกลงมา อาจทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้บ้าง เมื่อทุกฝ่ายได้พูดคุยเจรจาและเข้าใจเหตุผลต่างพึงพอใจและแยกย้ายกันไปเพื่อไปสื่อสารข้อมูลให้ชาวนาที่ตั้งท่ารอน้ำจากคลองชลประทานได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวต่อไปอีกด้วย

สิทธิพจน์ พิจิตร

 

การเมือง ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม