เลย-กอ.รมน.เลยบุกยึดคืนผืนป่าจากการถูกบุกรุก 9 ไร่เศษ

เลย-กอ.รมน.เลยบุกยึดคืนผืนป่าจากการถูกบุกรุก 9 ไร่เศษ

เลย-กอ.รมน.เลยบุกยึดคืนผืนป่าจากการถูกบุกรุก 9 ไร่เศษ
อ.ด่านซ้าย จ.เลย กำลัง กอ.รมน.เลย ยึดคืนผืนป่าเขตป่าสงวนภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ จากการบุกรุก
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 21 มิ.ย.2564 พ.อ.สมหมาย บุษบา รอง ผบ.มทบ.28/รอง ผอ.รมน.จังหวัด ล.ย.(ท), พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญ ศปป.4 กอ.รมน ,นายกานดิษฏ์ สิงหากัน ผอ.ศูนย์ป่าไม้เลย ,นายวีระวัฒน์ ประสมสุข ผอ.ศปป.2 (ตอ./น.) ,นายจักรภัทร พรมคล้าย ปลัดอาวุโส อำเภอด่านซ้ายฯ ,พ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.3 บก.ปทส. และนายพิชัย อาฤทธิ์ หน.หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ด่านซ้าย ได้มอบหมายให้ จนท.กอ.รมน.จังหวัด ล.ย., จนท.ร้อย สห. มทบ.28 ,จนท.ร้อย.ทพ.2101 บก.ควบคุมที่ 3 (หน่วยปกติ กรม ทพ.22) ,จนท.ตำรวจ กก.3 บก.ปทส. จนท. ,จนท.ฝ่ายปกครอง อำเภอด่านซ้ายฯ ,จนท. หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ด่านซ้าย และ เจ้าหน้าที่สายตรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) กรมป่าไม้ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกันออกตรวจสอบและตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้
กรณีมีราษฎร “ขอปกปิดชื่อ” ร้องเรียนผ่านโทรศัพท์ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย ว่ามีการบุกรุก แผ้วถาง ยึดถือครอบครองป่าในเขตป่าสงวนภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ ท้องที่ บ้านกกจำปา หมู่ 4 ตำบลโป่ง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ขณะคณะเจ้าหน้าที่เดินทางถึงบริเวณดังกล่าว ขณะนั้นเป็นเวลา 10.30 น. ตรวจพบพื้นที่บุกรุกป่า จำนวน 3 แปลง ผลการตรวจสอบ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว แปลงที่ 1 ตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุด้วยเครื่อง GPS จับพิกัดรอบแปลง จำนวน 10 จุด คิดเป็น เนื้อที่ 2ไร่ 3 งาน แปลงที่ 2 ตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุด้วยเครื่อง GPS จับพิกัดรอบแปลง จำนวน 9 จุด คิดเป็น เนื้อที่ 3 ไร่ แปลงที่ 3 ตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุด้วยเครื่อง GPS จับพิกัดรอบแปลง จำนวน 9 จุด คิดเป็น เนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน ตรวจสอบที่ตั้งแปลงที่ดินเมื่อเปรียบเทียบกับแผนที่แสดงเขตป่าสงวนแห่งชาติ พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ ท้องที่บ้านกกจำปา หมู่ 4 ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย อยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์โซน ซี และตั้งอยู่ในเขตชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้น 1 เอ ตรวจสอบสภาพพื้นที่โดยทั่วไป พบว่า เป็นพื้นที่ราบบนเนินเขา ชนิดดินเป็นดินเหนียวและดินร่วนปนทราย ที่ดินข้างเคียงปลูกต้นยูคาลิปตัส มีเส้นทางเกษตรเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการบุกรุก พบร่องรอยการแผ้วถางต้นยูคาลิปตัส พบตอและเศษของไม้ยูคาลิปตัส ถูกตัดฟันและถูกไฟไหม้หลงเหลืออยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนการตรวจสอบการทำประโยชน์พบว่า แปลงที่ 1,2 พบว่า มีการปลูกข้าว มันสำปะหลัง อายุประมาณ 1-2 เดือน ตรวจสอบการทำประโยชน์ แปลงที่ 3 พบว่า มีการปลูกขิง อายุประมาณ 1-2 เดือน ๖.ตรวจสอบการครอบครอง จากการสอบถามราษฎรหมู่บ้านกกจำปา หมู่ 4 ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย ท้องที่เกิดเหตุ และมีที่ดินใกล้เคียงสถานที่เกิดเหตุ แจ้งว่าบริเวณแปลงที่ดินพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นที่ดินของนายสุวรรณ กันยาประสิทธิ์ ได้มาโดยการแผ้วถางต้นยูคาลิปตัส ซึ่งปลูกไว้ในที่ดินของนายทุนผู้มากว้านซื้อจากที่ดินทำกินของราษฎรบ้านกกจำปา เสร็จแล้วปล่อยทิ้งร้าง และออกจากพื้นที่ไปเนื่องจากกลัวเจ้าหน้าที่จับกุม แล้วต่อมานายสุวรรณฯ ได้เข้ามาครอบครอง แผ้วถาง และเข้าทำกินในพื้นที่ดังกล่าว

ขณะตรวจสอบไม่พบผู้ใดในบริเวณที่เกิดเหตุ คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ประกอบด้วย ฐานยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14,31 านก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ ครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54,72 ตรี
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ถูกบุกรุก จำนวน 3 แปลง รวมเนื้อที่ 9 ไร่เศษ ไว้เป็นหลักฐาน และการดำเนินการตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าในครั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และร่วมกันจัดทำบันทึกการตรวจยึด รวบรวมเอกสารและพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จึงนำเรื่องราวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรด่านซ้าย เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม