ประชุมปฎิบัติการเพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับการ”ป้องกันการทุจริตเชิงรุก”
เมือวันที่30มิย.64เวลา9.30น.ณ.ห้องประชุมมณีนพเก้าโรงแรมเดอะกรีนปาร์คแกรนต์ยโสธร
นายอดุลย์ วันดีผู้อำนวยการสำนักงานป.ป.ช.จังหวัดยโสธร เป็นประทาน เปิดการประชุมปฎิบัติการเพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตเชิงรุกในการยกระดับแนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการทุจริตในพื้นที่(โครงการแก้ไข้ปัญหาการทุจริตในพื้นที่ของสำนักงานป.ป.ช.จังหวัดยโสธร)
โดยการจัดประชุมให้แก่หน่วยงานราชการภาครัฐส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และเครื่อข่ายภาคประชาชนในจังหวัดยโสธร
โดยได้เชิญ นาย มานบพ บุญแก้ว ผู้อำนวยการตรวจเงินแผ่นดิน จว.ยโสธร นายทำนอง บุญเจริญ สำนักงานจว.ยโสธร มาร่วมประชุมเพื่อเสนอแนะให้ความรู้ในประเด็นระเบียบข้อกฎหมายแก่หน่วยงานราชการและองค์กรปกครองท้องถิ่นและนายฉัตรชัยวงศ์ ชูเลิศ เจ้าของเพจ แฉคนโกง นายฐานันดร สุจินพรัหม เจ้าของเพจคุ่ยเขี่ย เข้าร่วมแลกเปลียนประสบการณ์ใน หัวข้อการขอใช้พื้นที่ดินสาธารณะของแผ่นดินในการก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆของหน่วยงานรัฐที่เอาเงินงบประมาณแผ่นดินมาสร้างในที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ให้ถูกกฎหมายอยู่ในครั้งนี้ด้วย
นายอดุลย์ วันดีผอ.ป.ป.ช.ยังได้กล่าวเพิ่มมเติมว่าสำนักงานป.ป.ช.เป็นองค์กรหลักด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและสถานการณ์การทุจริตของประเทศ จึงได้พยายามผลักดันและกระตุ้นหน่วยงานทุกภาคส่วนให้มีการดำเนินงานอย่างมีคุณธรรมและความโปร่งใส ตามแนวทางป้องกันการทุจริตเชิงรุกซึ่งการประชุมในครั้งนี้ นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ เกียวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเชิงรุกแก่เครื่อข่ายในพื้นที่และขยายผลการป้องกันการทุจริตเชิงรุกผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน ในการดำเนินงานเชิงป้องกัน เพื่อขจัดปัญหาการทุจริตในวงราชการ และลดจำนวนเรื่องร้องเรียนและเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงานให้สูงขึ้น และตอบสนองต่อประชาชนผู้รับบริการให้เกิดความพึงพอใจ และสะดวก และมีทัศนคติที่ดีในการรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐ
เนื่องด้วยสถานการณ์ทุจริตของประเทศไทยตลอดเวลาที่ผ่านมายังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าพอใจโดยสามารถดูได้จากค่าคะแนนดัชนีภาพลักษณ์คอรัปชั่นCorruption perceptions lndex:cpi ยังอยู่ในระดับไม่เกิน38คะแนนซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขประกอบกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 (พศ.2560-2564)ที่มุ่งเน้นการสร้างจิตรสำนึกของประชาชนให้มีทัศนคติและค่านิยมในการต่อต้านการทุจริตเน้นการประสานความร่วมมือกับเครื่อข่ายภาคีรวมถึงการพัฒนากลไกการดำเนินงานทั่งในด้านการสร้างบุคคลากรที่มีประสิทธิภาพและสร้างกลไกทางกฎหมายที่มีความเข้มแข็ง
รวมทั่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการการทุจริตพศ.2561มาตรา33กำหนดว่าเพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐมีส่วนร่วมและให้ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการการทุจริตให้คณะกรรมการปปช.กำหนดมาตรการและและกลไกที่จำเป็นต่อการดำเนินการในเรื่องดังต่อไปนี้
1.การส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อมีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้ความรู้ต่อต้านหรือชี้เบาะแสโดยได้รับความคุ้ม ครองรวมทั้งจัดให้มีช่องทางการแจ้งข้อมูลเบาะแสหรือพยานหลักฐานสำหรับการกระทำความผิดที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการป.ป.ช.โดยช่องทางดังกล่าวต้องมีวิธีการที่ง่ายสะดวกไม่มีขั้นตอนยุ่งยากและไม่ก่อผลร้ายกับผู้แจ้งดังกล่าวรวมทั้งดำเนินการเพื่อป้องการทุจริตตลอดจนเสริมสร้างทัศนคติและค่านิยมเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต
2.ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในการจัดให้มีกลไกการแจ้งเตือนกรณีพบว่ามีพฤติการณ์ที่ส่อว่าอาจมีการทุจริตในหน่วยงานของตน
3.ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรายของการทุจริต รวมถึงค่านิยมที่เน้นการพึ่งพาระบบอุถัมภ์ในสำคมเพื่อใหเกิดการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง