วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน 2564 (2021)
ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ได้จารึกไว้ว่า ครั้งหนึ่ง..คนไทยได้ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อปกปักรักษามรดกแห่งวัฒนธรรมของชาติไว้อย่างเต็มภาคภูมิ มีเพลงอยู่เพลงหนึ่งชื่อว่า”ทับหลัง”ขับร้องโดย #แอ๊ด_คาราบาว และทีมงาน เนื้อร้องเน้นถึงการทวงคืนสมบัติของเราที่เขาเอาไป เอาของคนไทยไปทำไม ? เอาแจ๊กสันคืนไป เอาพระณารายณ์คืนมา…
กระแสเพลงดังกล่าว ได้รับความนิยมและตอบสนองเกิดกระสความรักชาติ สร้างความตื่นตัวให้กับคนไทย ต่อกรณีที่สถาบันศิลปะแห่งหนึ่งในนครชิคาโกได้นำวัตถุโบราณคือ”#ทับหลังณารายณ์บรรทมสินธุ์”ลักลอบนำออกไปเมื่อครั้งอเมริกามาตั้งฐานทัพในไทย เพื่อต่อสักับสงครามเวียดนามช่วงปี 2498-2518
#วันนี้ในอดีต เมื่อ 33 ปีที่แล้วตรงกับวันที่ 10 พฤศจิกายน 2531 ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ทับหลังศิลาโบราณวัตถุล้ำค่าของไทย ซึ่งถูกลักลอบนำไปจากปราสาทหินเขาพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเวลาเกือบ 30 ปี กลับคืนสู่ไทยอีกครั้ง
โบราณวัตถุชิ้นนี้เป็นประติมากรรมศิลาจำหลักบนทับหลังประตูของปรางค์ประธาน ด้านทิศตะวันออกของปราสาทหินพนมรุ้ง #มานิต_วัลลิโภดม ภัณฑารักษ์พิเศษ แห่งกรมศิลปากร ได้สำรวจและบันทึกภาพไว้เมื่อปี 2503 ปรากฎว่าทับหลังชิ้นนี้นั้น หักออกเป็นสองท่อน ตกอยู่ที่เชิงประตูปรางค์ประธาน
และต่อมาทับหลังทั้งสองชิ้นได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย จนปี 2508 จึงได้พบทับหลังชิ้นนี้ขนาด 1 ใน 3 ของด้านขวาที่ร้านขายของเก่าแห่งหนึ่ง กรมศิลปากรจึงได้ยึดมาเก็บรักษาไว้ แล้วนำไปประดับไว้ที่เดิม เมื่อมีการซ่อมปราสาทแต่ยังขาดชิ้นส่วนของทับหลังที่เหลืออีก 2 ส่วน
ในปี 2516 ศาสตราจารย์ ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล ขณะดำรงตำแหน่ง คณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และ ดร.ไฮแรม วูดเวิร์ด จูเนียร์ อดีตอาสาสมัครสันติภาพ ที่เคยสอนในมหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ไปพบทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ชิ้นนี้ ที่สถาบันศิลปะ นครชิคาโก สหรัฐ และทรงมีหนังสือแจ้งอธิบดีกรมศิลปากรอย่างเป็นทางการว่าควรจะขอกลับคืน
จนกระทั่งในปี 2531 ขณะที่การบูรณะปราสาทหินพนมรุ้งใกล้จะเสร็จเรียบร้อย มีการรื้อฟื้นเรื่องการขอคืนทับหลังขึ้นมาใหม่ ซึ่งครั้งนี้ได้รณรงค์กันอย่างกว้างขวางด้วยกระแส #เพลงทับหลัง ความรักชาติ ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในนครชิคาโกรวมทั้งชาวอเมริกันและชาติอื่นๆ ได้ให้การสนับสนุน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2531 สถาบันศิลปะ นครชิคาโก ได้ส่งทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ กลับคืนสู่ประเทศไทย ในพระนามของศาสตราจารย์ ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล ทับหลังจะถึงสนามบินดอนเมืองในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2531
#พระนารายณ์ ได้รับยกย่องให้เป็นเทพเจ้าสูงสุดองค์หนึ่งในจำนวน 3 องค์ของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู แต่ชาวอินเดียที่นับถือไวษณพนิกายซึ่งยกย่องพระนารายณ์เป็นเทพสูงสุดแต่เพียงองค์เดียว ถือว่าพระนารายณ์เป็นทั้งพระผู้สร้าง ผู้ถนอม และผู้ทำลายโลก ที่ประทับประจำของพระนารายณ์คือสวรรค์ชั้นไวกูณฐ์ ซึ่งอยู่ทิศเหนือของเกษียรสาครหรือทะเลน้ำนม
พระนารายณ์จะบรรทมอยู่บนอาสนะในวงขนดของพญาเศษนาคราชหรืออนันตนาคราช ซึ่งมีเศียรหนึ่งพัน และมีพระชายาคือพระศรี หรือ #พระลักษมี นั่งปฏิบัติอยู่แทบพระบาท หากไม่มีเหตุเภทภัยทุรพาล พระนารายณ์ก็บรรทมอยู่อย่างนั้น ครั้นเมื่อเกิดเป็นทรุยุค พระนารายณ์ก็จะตื่นบรรทมเพื่อไปปราบเรียกว่า“#อวตาร”
เพราะเหตุที่พระนารายณ์ประทับและบรรทมบนอนันตนาคราช รูปพระนารายณ์ประทับหรือบรรทมแบบนี้จึงเรียกว่า “#วิษณุอนันตศายิน” หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “#นารายณ์บรรทมสินธุ์”นั่นเอง
ภาพ : ข่าว : Internet : #สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย #KasemLimaphan #เกษม_ลิมะพันธุ์