กรมอุทยานฯ ลุยรื้อบ้านพักตากอากาศ มูลค่า 2 ล้าน รุกที่อุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ เตรียมหารือป.ป.ช.ภาค7 ในกรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง

กรมอุทยานฯ ลุยรื้อบ้านพักตากอากาศ มูลค่า 2 ล้าน รุกที่อุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ เตรียมหารือป.ป.ช.ภาค7 ในกรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง

กาญจนบุรี กรมอุทยานฯ ลุยรื้อบ้านพักตากอากาศ มูลค่า 2 ล้าน รุกที่อุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ เตรียมหารือป.ป.ช.ภาค7 ในกรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง

วันนี้ 30 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่าตาม นโยบาย”ทส.หนึ่งเดียว” และ”ทส.ยกกำลังเอกซ์” ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องบูรณาการทำงานเป็นหนึ่งเดียว ใกล้ชิดประชาชน และพร้อมทำงานอย่างเต็มที่ ไร้ขีดจำกัด และข้อสั่งการของ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้อสั่งการ ของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการปราบปรามขั้นเด็ดขาดกับนายทุนผู้บุกรุกป่า แล้วยึดคืนมาฟื้นฟูเป็นป่าธรรมชาติดังเดิม

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดประกาศคำสั่ง ให้สั่งรื้อบ้านพักตากอากาศมูลค่า 2 ล้านบาท ริมลำห้วยแม่กว้า ท้องที่หมู่ที่ 1 ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งสร้างบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ในคดีตาม ปจว. ข้อ 1 เวลา 16.00 น. คดีอาญาที่ 135/2556 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2556 พื้นที่บุกรุก จำนวน 14-0-38 ไร่ ซึ่งมีสิ่งปลูกสร้างลักษณะบ้านพักตากอากาศ ลักษณะใหม่จำนวน 3 หลัง และสิ่งปลูกสร้างอื่นอีก 4 รายการ ในคดีรายนางอารีรัตน์ เหลืองดอกไม้ เป็นผู้กระทำผิด

สำหรับในคดีอาญาพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งไม่ฟ้อง นางอารีรัตน์ เหลืองดอกไม้ เพราะขาดเจตนา

สำหรับในคดีปกครองศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ชนะคดี โดยให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวได้ ตามคดีหมายเลขดำที่ อส. 75/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อส.1/2564

หลังจากติดประกาศคำสั่งรื้อถอน ในวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ไปแล้วนั้น ทางอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้รับแจ้งจากนางอารีรัตน์ เหลืองดอกไม้ แจ้งประสงค์ขอรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่บุกรุกอุทยานฯแห่งชาติด้วยตนเอง โดยในวันที่ 12 ธันวาคม 2564 ได้นำคนงานเข้าเริ่มดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยเริ่มจากการทุบปูนผนัง ดึงวงกบหน้าต่างประตู และตัดเหล็กโครงหลังคาทั้งหมด ออกจากตัวอาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ได้เข้าควบคุมการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังจากรื้อถอนโครงสร้างหลังคาออกทั้งหมดเหลือเฉพาะโครงสร้างผนังปูน และคานรับโครงสร้างต่างๆ ในวันที่ 16-18 ธันวาคม 2564 คนงานได้นำเครื่องจักรรถแบ็คโฮ เข้าทุบ รื้อทำลายตัวอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ทั้งหมด และขนย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมปรับสภาพพื้นที่ให้คืนสู่สภาพเดิม โดยใช้ระยะเวลาในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด 7 วัน

โดยในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จำนวน 20 คน ได้เข้าดำเนินการปรับปรุงสภาพพื้นที่ และดำเนินการปลูกป่าพื้นฟูพื้นที่ในแปลงคดีดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ที่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ภายใต้โครงการปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า โดยปลูกไม้ป่า อันได้แก่ มะค่าโมง ยางนา ตะแบก สัก จำนวน 100 กล้า เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้เป็นแหล่งต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของประชาชนทุกคน

นายนิพนธ์ฯยังได้กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า สังเกตได้ว่า คดีรีสอร์ทหรือบ้านพักตากอากาศที่เจ้าของหรือนายทุนปลุกสร้างบุกรุกในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่รับอนุญาต ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) คดีส่วนใหญ่พนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้องเพราะขาดเจตนา อาจจะเป็นเพราะมีจุดอ่อนในการบันทึกตรวจยึดจับกุมของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอง หรือเป็นเพราะสำนวนของการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือเป็นเพราะสำนวนการสอบสวนคำวินิจฉัย ของพนักงานอัยการ จะนำเรื่องดังกล่าวประมาณ10 กว่าคดี ที่พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนำไปปรึกษาหารือกับ นายหิรัณย์เศรษฐ เหยี่ยวประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.ภาค 7 เพื่อดำเนินการหาแนวทางแก้ไขในเรื่องนี้ต่อไป./
//////////////////////////////////


ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

ข่าวเหตุการณ์ทั่วไป ข่าวสถานการณ์