เลย-ถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่หมดกว่า 30 ล้าน แถมถูกเจ้ามือท้าแจ้งความ

 เลย-ถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่หมดกว่า 30 ล้าน แถมถูกเจ้ามือท้าแจ้งความ

เลย-ถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่หมดกว่า 30 ล้าน แถมถูกเจ้ามือท้าแจ้งความ
อ.เมืองเลย จ.เลย ถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่หมดกว่า 30 ล้าน แถมถูกเจ้ามือท้าแจ้งความ รวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเลย
จากการที่มีข่าวลงในกลุ่มไลน์วันที่ 9 ก.พ.2565 กรณีมีผู้ถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่หมดกว่า 30 ล้าน แถมถูกเจ้ามือท้าแจ้งความ ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 26-27 ปี กว่า 10 คน ว่าถูกไฮโซแห่งบ้านนาแขม ต.นาแขม อ.เมืองเลย หลอกร่วมลงทุน เพื่อทำแชร์เงิน แชร์ทอง และธุรกิจอีกหลายอย่าง พร้อมกับมีดอกเบี้ยกลับคืน 100% ลงทุนไม่ถึงเดือนโกงเงินร่วมทุนไปหน้าตาเฉย ซื้อรถใหม่ สร้างบ้านราคากว่า 30 ล้าน แถมยังท้าให้รวมตัวกันแจ้งความเลย อ้างว่ามีผู้หนุนหลังทั้งผู้กำกับ นายตำรวจใหญ่ มีญาติเป็นนายก อบต. ผู้เสียหายอ้างว่าได้แจ้งความแล้ว ตำรวจเฉย คดีไม่คืบหน้า ร้องถึงศูนย์ดำรงธรรมก็เงียบเหมือนเดิม
มีผู้แทนของผู้เสียหาย ระบุว่า เริ่มแรกรู้จักผู้หญิงคนนี้ชื่อเล่นว่า บูม ในเฟซบุ๊กมีการโฆษณา บ้านแชร์ นริชชี่พารวย แชร์เงิน แชร์ทอง ปล่อยเงินกู้ รายวัน รายเดือน รับนายทุนสำรองต้นดอก 100% มีครบวงจรที่นี้ที่เดียว เริ่มต้นตนก็เฉยๆ ต่อมามีน้องที่รู้จักกันในที่ทำงานไปลงทุนกับเขา มาคุยได้ดอกเบี้ยดีมาก ตนจึงเข้าไปดูโปรไฟล์เขาดีมาก ในเฟซลูกกลุ่มต่างเขียนแบ่งผลกำไรเท่านั้นเท่านี้ แฮปปี้กันทั้งกลุ่ม ตนจึงลองทดลองลงก้อนแรกไป ก็ได้ดอกดีมาก จึงร่วมลงทุนไปอีกไปเอาเงินญาติพี่น้องลงร่วมด้วย สำหรับของตนประมาณ 2 ล้าน 4 แสน ต่อมาอยู่ๆ ก็ขอปิดกลุ่ม อ้างว่าถูกโกงไปหมดตัวกว่า 51 ล้าน แต่ประพฤติกรรมกลับตรงกันข้ามว่าถูกโกง มีซื้อรถเบนซ์ป้ายแดง รถตู้โตโยต้า อัลฟาร์ด ขับมาโชว์ แถมโชว์ใบหย่ากับสามีเป็นตำรวจ แต่อยู่ด้วยกัน แถมเปลี่ยนชื่อ นามสกุล เป็นคนใหม่ แอบอ้างมีผู้ใหญ่หนุนหลัง บ้างมีรุ่นพี่เป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับ ย้ายมาจากจังหวัดระยองมาดูแลพิเศษเป็นผู้กำกับ สภ.หนึ่ง จ.หนองคาย และมีลุงเป็นถึงนายก อบต.ในจังหวัดเลยจึงได้รวบรวมผู้เสียหายเฉพาะกลุ่มของตนมีทั้งหมด 40 คน เสียหายไปประมาณ 20 กว่าล้านบาท และอยู่นอกกลุ่มอีกคาดว่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ผู้เสียหายอยู่ขอนแก่น อุดรฯ ก็มี ที่อยู่นอกกลุ่มเมื่อเสียเงินไปแล้ว และที่ยังไม่แจ้งความ ยังหวังว่าจะได้เงินคืนอยู่ ซึ่งประพฤติกรรมของคนคนนี้ แม้ขายรถได้เงินเป็นล้าน ขายหวย ได้เงินมาก็เงียบเฉย ตอนเราโอนเงิน ก็ไม่ใช่เงินเข้าบัญชีเขาคนเดียว เดี๋ยวให้โอนให้สามีบ้าง แม่เขาบ้าง เล่นโกงกันทั้งครอบครัวเลย ที่ตนเข้ามาร้องสื่อ หวังว่มาวันนี้เวลา 14.00 น.วันที่ 10 ก.พ. 2565 ณ ห้องปฏิบัติงานของ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองเลย ผกก.สภ.เมืองเลย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้ทางตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อสังคมอนไลน์ ว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากถูกหลอกลวงให้นำเงินมาร่วม แอพพลิเคชั่นไลน์และแอพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค โดยใช้ชื่อว่า “นายทุนบ้านนริชซี่พารวย168” แต่ไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่ได้ตกลงกันจนเป็นเหตุได้รับความเสียหาย นั้น สถานีตำรวจภูธรเมืองเลยขอแถลงข้อเท็จจริงดังกล่าวให้สื่อมวลชนทราบ ดังนี้
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 มีนางสาวอารียา นันทสุธา และคนอื่นรวม 10 คน ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงาน สภ.เมืองเลย ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวไอลดา ศรีพุทธา อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา โดยมี
การกระทำว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ถึงวันที่ 5 กันยายน 2564 เวลาวันและกลางคืนต่อเนื่องกันผู้ต้องหาได้บังอาจ หรือแสดงข้อความในกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์และแอพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค โดยใช้ชื่อว่า “นายทุนบ้านนริชขณะนั้นมีสมาชิกประมาณ 40 คน ในทำนองชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนโดยจะได้รับค่าตอบแทนในอัตราส่วนเงินลงทุน 100,000 บาท ต่อ 500 บาท ต่อวัน และจะได้รับเงินภายใน 1-5 วัน นับแต่วันที่นำเงินมาลงทุน ผู้เสียหายและคนอื่น รวม 10 คน พบเห็นแล้วหลงเชื่อจึงได้โอนเงินให้แก่ผู้ต้องหาโดยวิธีโอนเงินผ่านธนาคารไปยังบัญชีของผู้ต้องหาและบัญชี ของบุคคลใกล้ชิด เมื่อถึงกำหนดเวลาที่ตกลงกันผู้เสียหายและคนอื่นไม่ได้รับเงินและผลประโยชน์ตอบแทนแต่อย่างใดจน เป็นเหตุให้ได้รบความเสียหาย รวมเป็นเงินจำนวน 8,182,500 บาท
ผกก.สภ.เมืองเลย กล่าวอีกว่า สำหรับ ความคืบหน้าทางคดีนั้นหลังจากได้รับคำร้องทุกข์
ของผู้เสียหายดังกล่าวแล้ว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเลย ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย คือ 1.ได้สอบสวนปากคำผู้เสียหาย จำนวน 10 ราย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นพยานหลักฐานประกอบสำนวนการ 2. ได้อายัดบัญชีผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 รายแล้ว 3.ได้ดำเนินการอายัดการทำธุรกรรมทางบัญชีผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้ทำการสอบสวนเจ้าของบัญชี เงินฝากที่ผู้ต้องหาใช้ในการกระทำดังกล่าวไว้ จำนวน 4 ราย
4.ได้มีหนังสือไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อขอตรวจสอบเส้นทางการเงินและ วิเคราะห์การทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
. 5.ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรอรายการเดินบัญชีของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องจากธนาคารสำนักงานใหญ่ จำนวน 5 แห่ง ซึ่งได้ทำหนังสือทวงถามไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีเรียบร้อยแล้ว
6. เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 นางสาวไอลดา ศรีพุทธา ผู้ต้องหาได้มาพบพนักงานสอบสวนตาม หมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยกล่าวหาว่า “กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” จึงอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องศาลจังหวัดเลย และผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ติดต่อประสานได้ทุกเวลา ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว สามารถร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้ที่สถานี ตำรวจภูธรเมืองเลย
————————–//—————————


บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย

ข่าวเหตุการณ์ทั่วไป ข่าวสถานการณ์