รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงใต้ติดตามความคืบหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบชายแดนไทย-มาเลเซีย ด่านตากใบ นราธิวาส พร้อมเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่
วันที่ 11 มีนาคม 2565 เวลา 08.30 น. ณ อาคารด่านพรมแดน ด่านศุลกากรตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม/ประธานกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พร้อมด้วยพลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (ด้านความมั่นคง), ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (ด้านประสานการมีส่วนร่วม) และพลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ลงพื้นที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบชายแดนไทยมาเลเซีย เพื่อขับเคลื่อนติดตามงานการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พลตรี เฉลิมพร ขําเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, ว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอตากใบ, นายอติสันติ์ ภูวพิพัฒนวงศ์ นายด่านศุลกากรตากใบ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมครั้งนี้
ในโอกาสนี้คณะได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ ตลอดจนรับทราบภาพรวมด้านเศรษฐกิจการค้าขายด้านพรมแดนไทย – มาเลเซีย ซึ่งพื้นที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีช่องทาง เข้า – ออก ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีจุดผ่านแดนถาวร 1 แห่ง จุดผ่อนปรนการค้า 3 แห่ง และช่องทางธรรมชาติ จำนวน 26 จุด มีแนวลำน้ำโกลกกั้นเขตแดน มีหน่วยงานในพื้นที่ประสานการทำงานร่วมกันในการปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชน ดูแลป้องกัน สกัดกั้น ยับยั้งการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การขนสินค้าหลีกเลี่ยงภาษี การค้ายาเสพติด ตลอดจนการควบคุม คัดกรองบุคคลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทุกหน่วยในพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมตามมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกันดูแล ตามเส้นเขตแดนทางน้ำระยะทาง 106 กิโลเมตร ด้วยการประสานความร่วมมือ และบูรณาร่วมกันได้อย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้คณะได้ลงเรือตำรวจน้ำ เพื่อสำรวจลำน้ำโก – ลก สถานที่ดำเนินการก่อสร้างโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบชายแดนไทย – มาเลเซีย และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนเป็นขวัญกำลังใจต่อไป
ต่อมาเวลา 12.00 น. คณะเดินทางยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 3003 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 30 บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านเงาะกาโป อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 4 ราย และประชาชน 6 ราย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะได้เป็นผู้แทน นายกรัฐมนตรี นำกระเช้าเยี่ยมปลอบขวัญ พร้อมเงินบำรุงขวัญมามอบให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ อส.ทพ.ชาติชาย นันทกรปรีดา เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 30 พร้อมได้มอบกระเช้า และเงินบำรุงขวัญให้แก่ญาติของนายตูแวมะอุเซ็ง จูนิ ประชาชนตำบลแม่หวาด อำเภอธารโต และญาตินางสาวคอรีเยาะ สะแม ประชาชนตำบลบันนังสตา จังหวัดยะลา
》พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม/ประธานกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า “วันนี้มาตรวจเยี่ยม ติดตามการดำเนินงานการจัดระเบียบชายแดน และความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มอบนโยบายที่จะสร้างความปลอดภัยพื้นที่ชายแดน รวมทั้งการค้าชายแดนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งด่านตากใบเป็นหนึ่งในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทราบว่าได้มีการดำเนินการจะทำอย่างไรให้มูลค่าการค้าชายแดนในพื้นที่ตากใบสูงขึ้น และตรวจเยี่ยมการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำสุไหงโกลก เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ได้หารือในมาตรการการรองรับการเปิดด่านชายแดนของมาลาเซียในวันที่ 1 เมษายน 2565 นี้ ทั้งในเรื่องของความมั่นคง และคัดกรองป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น พร้อมหารือแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้าตามแนวชายแดนหลังมีการเปิดด่านพรมแดน ขณะนี้ทุกส่วนมีความพร้อมอย่างมาก เพื่อช่วยกันให้การค้าขายตามแนวชายแดนไทย- มาเลเซียกลับฟื้นตัวอีกครั้ง นอกจากนี้ยังได้ไปเยี่ยมประชาชน เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 พร้อมทั้งกำชับให้ดูแลเยียวยาอย่างเต็มที่ โดยให้โรงพยาบาล และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ดำเนินการเร่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ กำชับให้หน่วยงานความมั่นคงได้ติดตามผู้ก่อเหตุ เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 4 ดูแลปรับแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่จุดล่อแหลมและมีความเปราะบาง อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคน”
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน