ยึดรถแบ็คโฮร์-ขุดเขาแดง
ศิลปากรแจ้งความเพิ่มคดีที่ 4 กรณีบุกรุกโบราณสถานเมืองเก่า พร้อมทำการตรวจยึดรถแบคโฮร์ ซึ่งเป็นคันเดียวกันที่ก่อเหตุใน ปี 2557 ได้ในบ้านผู้ต้องหาคดีที่ 2 คาด สัปดาหน้า ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง
จากปัญหาการบุกรุกโบราณสถานเมืองเก่าสงขลา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ทั้งโบราณสถานเขาแดงและโบราณสถานเขาน้อย ซึ่งถูกบุกรุก ขุดดินออกจากพื้นที่ มูลค่า 30 ล้านบาท โดยในส่วนที่มีการแจ้งความโดยสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา มีจำนวน 4 คดี ซึ่งใน 2 คดีแรก เป็นการบุกรุกโบราณสถานเขาแดง และ บุกรุกโบราณสถานเขาน้อยนั้น มีผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วรวม 3 ราย เป็นคดีที่ 1 จำนวน 1 รายและคดีที่ 2 จำนวน 2 ราย ส่วนในคดีที่ 3 เป็นการทำลายฐานเจดีย์องค์ดำ บนยอดเขาแดง ในส่วนนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และคดีล่าสุด คดีที่ 4 บุกรุกเขาน้อยอีก 1 ขุด เป็นคดีที่เกิดเหตุเมื่อปี 2557 ซึ่งเพิ่งได้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเมื่อ 3 วันก่อน
โดยในส่วนของพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร ได้ดำเนินการตรวจสอบ รถแบคโฮร์ ที่จอดอยู่ในเขตบ้านของผู้ต้องหารายหนึ่ง ในคดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย ซึ่งเลี้ยงสุนัขจรจัดเอาไว้และมมีแนวเขตที่ดินติดกับโบราณสถาน โดยได้ตรวจสอบหลักฐานของรถแบคโฮร์คันดังกล่าว พบว่ามีหลักฐานรถตรงกับที่เคยลงบันทึกประจำวันเอาไว้เมื่อปี 2557 ว่าใช้รถคันดังกล่าวขุดตักดินในคดีที่ 4 จึงได้ทำการกั้นบริเวณที่จุดจอดรถเอาไว้พร้อมปิดป้ายเป็นของกลางในคดีห้ามเคลื่อนย้าย
นอกจากนั้นในวันนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ 11 ร่วมกับ ตำรวจป่าไม้ เจ้าหน้าที่กอ.รมน.สงขลา หน่วยกำลังจากทัพเรือภาคที่ 2 กว่า 20 นาย ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บุกรุก พร้อมทำแนวเขต สำหรับเตรียมการรังวัดที่ดินและการประเมินความเสียหาย ทั้งจากมูลค่าดินและมูลค่าที่ต้องใช้ในการฟื้นฟู
ด้านพลตำรวจตรีอาชาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ระบุว่า ในขณะนี้นั้นถือว่าในจำนวนคดีทั้งหมด มีความคืบหน้าไปมาก โดยคดีที่เพิ่งเข้าแจ้งความล่าสุดนั้น พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบในขณะนั้นจากหน่วยเกี่ยวข้องเข้าสอบปากคำ รวมถึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว
“ภาพรวมนั้น ยังอยู่รอผลการประเมินความเสียหายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักศิลปากกรที่ 11 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 เพื่อนำผลมาประมวลในสำนวนคดีก่อนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ” ผู้การตำรวจจังหวัดสงขลา ระบุ