เลขาธิการ ศอ.บต.เผยความสำเร็จในการผลักดันโครงการพัฒนาที่ กพต.เห็นชอบ
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) เปิดเผยว่า โครงการการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านการผลักดันของ ศอ.บต. และผ่านความเห็นชอบของ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในส่วนของเมืองต้นแบบ ที่ 1 ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีความสำเร็จไปแล้วหลายโครงการ เช่นการเกิดขึ้นและขับเคลื่อนอย่างเต็มรูปแบบของโรงงานอุตสาหกรรมมะพร้าว ที่มีกำลังการผลิตมากกว่า ผลผลิตของเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวในพื้นที่ ส่งผลให้เกษตรกรผู้ทำสวนมะพร้าว ขายผลผลิตได้ราคาสูง และไม่ต้องถูก่อค้าคนกลางจากต่างถิ่นที่มารับซื้อกดราคา ซึ่งต่อไปจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรในพื้นที่หันมาทำสวนมะพร้าวเพิ่มขึ้น
ในส่วนของเมืองต้นแบบที่ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งประสพความสำเร็จกว่าที่คาดคิด ในห้วงที่”โควิด 19” ยังระบาด นักท่องเที่ยวภายในประเทศ และ ในพื้นที่ ก็เดินทางไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติและทานอาหารขึ้นชื่อของ อ.เบตง แบบ ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะการเดินทางไปเที่ยวชม ทะเลหมอกที่ อัยเยอร์เวง หลังจากที่มีการเปิดประเทศมีชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และยังมีการผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยสายการบิน นกแอร์ ที่เปิดไฟล์บินระหว่าง ดอนเมือง-เบตง สัปดาห์ละ 3 วัน ยิ่งทำให้มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ โรงแรมเต็ม ทุกแห่ง นักท่องเที่ยวคึกคักเป็นพิเศษ สร้างรายได้ให้กับ ผู้ทำธุรกิจการค้า และประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ที่สำคัญปีนี้ เกษตรกรชาวสวนผลไม้ สามารถจำหน่ายผลไม้ทุกชนิด ตั้งแต่ เงาะ มังคุด ทุเรียน ได้ในราคาแพง ขณะนี้ทุเรียน ใน จ.ยะลา และ นราธิวาส กำลังออกสู่ตลาด มีพ่อค้าจากต่างถิ่น มี”ล้ง” เข่ามาเปิดรับซื้อทุเรียนจากชาวสวนในราคา กก.ละ 120 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาขายส่งที่ดีมาก และในส่วนของ ลองกอง ผลไม้ประจำถิ่น ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงต่อไป ก็เชื่อว่าปีนี้จะได้ราคาดี ไม่เป็นปัญหาให้ชาวสวนต้องขาดทุน และทื้งผลผลิตให้เน่าคาต้นอย่างที่เคยเกิดขึ้นจากการที่ ผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มาจากการวางแผนล่วงหน้าจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย ศอ.บต. ทำหน้าที่ในการ”บูรณาการ”เพื่อให้มีการประสานการทำงานในทิศทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรในพื้นที่
และเพื่อสร้างความคึกคักและการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าขาย การท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 13-15 สิงหาคม จังหวัดยะลา จะมีการงาน”มหกรรมผลไม้และของดีเมืองยะลา”ประจำปี 2565 ขึ้น เพื่อเป็นการ เสริมสร้างภาพลักษณ์ ของจังหวัด ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพของ ผลไม้ ที่เป็น”เอกลักษณ์” ของเมืองยะลา เพื่อการพัฒนาอาชีพของเกษตรกร ที่เป็นอาชีพของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่