ประธานเครือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นเข้ายื่นให้ปปช.สอบเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยให้บุกรุกที่สาธารณสมบัตของแผ่นดินสำหรับประชาชนใช้ร่วมกัน”ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง”

ประธานเครือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นเข้ายื่นให้ปปช.สอบเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยให้บุกรุกที่สาธารณสมบัตของแผ่นดินสำหรับประชาชนใช้ร่วมกัน”ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง”

ประธานเครือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นเข้ายื่นเรื่องให้ปปช.สอบเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยให้มีการบุกรุกที่สาธารณสมบัตของแผ่นดินสำหรับประชาชนใช้ร่วมกันก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง

 

วันที่ 11 ตุลาคม 65 เวลา 13.00 น.นายฉัตรชัยวงค์ ชูเลิศ ประธานเครือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ผู้อำนวยการ หนังสือพิมพ์แผ่นดินไทยโพสต์ และนายธรรมธนกฤษณ์ พรหมพันธุ์ รองประธานเครือข่ายฯ และ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์แผ่นดินไทยโพสต์ เดินทางเข้ายื่น หนังสือ ให้กับ นายนิวัติไชย  เกษมมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติณ.สนามบิน

        สืบเนื่องจากกลุ่มเคือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นได้มีการก่อตั้งกลุ่มเคือข่ายฯขึ้นเมื่อวัน 11 กย. 64 โดยนายฉัตรชัยวงศ์ ชูเลิศ วัตถุประสงค์ของการก่อตั้งกลุ่มฯเพื่อเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ โดยมีประชาชนทั้วประเทศ ที่มี จิตใจเสีย สละ กล้าหาญ และ มองเห็นความสำคัญ เรื่องทรัพยากร และ สิ่งแวดล้อม ของชาติ ที่ประชาชนทั้ง65ล้านคน ต้องใช้ร่วมกัน และ เพื่อ ลูกหลานเหลนไทยในวันข้างหน้า อันเป็นสมบัติชาติ ซึ่งลดน้อยลงไป เกิดจากประชากรของประเทศ เพิ่มขึ้น จึงตกลงประชุมก่อตั้ง ซึ่งมีสมาชิกเคือข่ายฯ อยู่ ทุกภูมิภาคของประเทศ ช่วยกันสอดส่องเฝ้าระวัง และส่งข่าวเข้ามายัง อินบล็อก ของศูนย์กลางกลุ่มเคื่อข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น  ในการพบเห็นกระทำความผิดเกี่่ยวกับ ที่ดินสงวนหวงห้ามของ รัฐที่ประชาชนใช้ร่วมกัน และ หรือทรัพยากรป่าไม้ทั้งทางน้ำและบก หรือความผิด อื่นๆที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม ซึ่งทวีความรุนแรง เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นจากการลงพื้นทีของสมาชิกเคือข่ายเฝ้าระวังทุจริตส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นทั้วประเทศไทยได้พบขอเท็จจริงว่าที่ดินสงวนหวงห้าม ของ รัฐหลายแปลง ทั้วประเทศไทย ได้มีการนำเงิน งบประมาณแผ่นดิน (ภาษีประชาชน) เข้าไปก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในที่ดินสาธารณประโยชน์ซึ่งกระทำได้ตามระเบียบมหาดไทย ปี53 แต่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายเสียก่อน แต่ส่วนใหญที่สำรวจพบโครงการ สิ่งปลูกสร้างหลายแห่งปล่อยทิ้งให้รกร้าง ไม่สามารถใช้การได้ มีให้พบเห็นอยู่ทั้วประเทศ และแต่ ละแห่งที่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง นั้น ใช้เงินงบประมาณจำนวนหลายร้อยๆล้านบาท ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ รัฐ ต้องสูญเงินภาษีไปเปล่าๆไม่ได้ประโยชน์ ที่ ประชาชชนควรจะได้รับ ดัง คำอ้าง เอา ภาษีมาก่อสร้าง?

               และ จากการลงไปสำรวจตรวบสอบในสถานที่จริง และเอกสารหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง(นสล) จากฝ่ายทะเบียนสำนักงานที่ดินจังหวัด และ ส่วนคุ้มครองที่ดินของรัฐกรมที่ดิน พบว่าส่วนใหญ่มีการขออนุญาติใช้ 5 ปี ตามอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ใน ตำแหน่ง เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา9 (ขออนุญาติใช้ชั่วคราว) เพื่อดำเนินการ ขอถอนสภาพเปลียนแปลงการใช้ ที่ดินจากอย่างหนึ่งเป็นอย่างหนึ่ง ตามระเบียบ มหาดไทย ปี43 แต่ปรากฎว่าที่ดินจำนวนหลายแปลงที่จัดทำโครงการได้แค่ขอใช้ 5 ปี เท่านั้นและหลายโครงการที่สร้างเสร็จผ่านมายี่สิบปีแล้ว ก็ยังดำเนินการไม่จบกระบวนการตามระเบียบ43 และยังพบอีกว่าการขออนุญาตใช้ 5ปี มีสถานที่ดินที่เข้าดำทำโครงการหลายแห่งหมดอายุในการขอใช้ตามเงื่อนไข(ชั่วคราว5ปี)  ทางกลุ่มเฝ้าระวังทุจริตฯ จึงมีมติเห็นควรว่าให้นำเรื่องดังกล่าวนี้ยื่นร้องให้ปปช.ให้ตรวสอบ ดังกล่าว

ภาพข่าว/เครือข่ายฯ

 

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม ข่าวเหตุการณ์ทั่วไป ข่าวสถานการณ์