“พ.ต.อ.ทวี” บรรยายพิเศษในกิจกรรม “นักศึกษา นักสร้างนวัตกรรม” ของมหาวิทยาลัยฟาฏอนี เชิดชู ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา สร้างนวัตกรรมใหม่ด้วยการเปิดมหาวิทยาลัยอิสลาม ทั้งที่รัฐบาลไทยมองข้าม แถมยังได้รับการยอมรับระดับโลก ประกาศจุดยืนประชาชาติ สร้างนวัตกรรมการเมืองแก้ปัญหาให้พี่น้องชายแดนใต้ เป็นพรรคการเมืองจากปลายขวานที่รู้วิธีแก้ปัญหาประเทศไทย เสนอไอเดียสวัสดิการเดือนละ 3,000 บาท ให้เด็กแรกเกิดถึงเรียนจบมหาวิทยาลัย
ที่ห้องประชุมอาคารเรียนรวมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม FTU INNOVATION CONTEST “นักศึกษา นักสร้างนวัตกรรม” โดยมีคณาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยฟาฏอนี เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวบรรยายตอนหนึ่งด้วยว่า “มีความดีใจและภาคภูมิใจกับนักศึกษา โดยเฉพาะที่ผมได้มีส่วนผลักดันในการสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติในขณะที่เป็นเลขาธิการ ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) ตอนนั้นมีแต่อาคารต่างชาติ ไม่มีอาคารใดเป็นของรัฐบาลไทยเลย เหมือนว่ารัฐบาลไทยมองข้าม”
“ในวันนี้มีกิจกรรมเกี่ยวกับนวัตกรรม เป็นเรื่องดีงามมากโดยเฉพาะอยากให้นักศึกษา ผู้จัดงานได้นึกถึงนวัตกรรมด้านการศึกษาเพื่อการหาทางออกที่ดี ต้องยอมรับว่าในอดีตการดิ้นรนของนักศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางศาสนา ต้องดิ้นรนไปเรียนต่างประเทศ ปี 2541 อาจารย์อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา เป็นตัวอย่างหนึ่งของนวัตกรรม บุกเบิกสร้างมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่มีการเรียนการสอนศาสนาอิสลามเป็นแกนหลัก มีนวัตกรรม ความคิด สิ่งใหม่ๆ มีคุณค่าอย่างแท้จริง”
“ปี 2556 ที่ผมเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา เปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ซึ่งชื่อก็มีคุณค่า แต่ที่มีคุณค่ามากกว่านั้นคือ ระดับ หรือ Range ของมหาวิทยาลัยที่เกิดไม่นาน แต่มีการจัดอันดับเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย ปรากฏว่าอยู่ในระดับท็อปเท็นที่คนเข้ามาดู เป็นที่ยอมรับในระดับโลก นี่คือนวัตกรรม คือสิ่งที่ดีงาม”
“หากไม่มีความคิดของอาจารย์ลุตฟี วันนี้สถานที่แห่งนี้ก็ไม่เกิด ลูกหลานต้องดิ้นรนไปเรียนต่างประเทศ วันนี้พวกเราได้มาอยู่กับนวัตกรรมที่มีผู้สร้างแท้จริง ลูกหลานได้มาแสดงออก”
“ในส่วนนวัตกรรมทางการเมือง พรรคประชาชาติก็ต้องมาเลียนแบบของนักศึกษา เราจะทำนวัตกรรมทางการเมืองของประชาชาติ เราหนีไม่พ้นต้องเอาปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชนมาแก้ ปัญหาคือเราไม่มีพื้นที่ทางการเมือง คนสามจังหวัดไม่มีพื้นที่ไปสู่อำนาจในการบริหารจัดการเพื่อไปเป็นรัฐบาล แต่การมีพรรคประชาชาติ อย่างน้อยเป็นพรรคของเราทุกคน เราเป็นสถาบัน พรรคเป็นของพี่น้องทุกคน ที่เราเกิดขึ้นมาเพื่อจะทำให้พี่น้องอยู่ดีมีสุข”
“วันนี้เรายืนในพื้นที่ปัตตานี มีการของบประมาณปี 2566 ของหน่วยงานต่างๆ บอกว่าปัตตานีเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุด ยากจนที่สุดได้อย่างไร เมื่อปลายด้ามขวานของเรามีทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน มีทรัพยากรทางทะเล ผลไม้มีทุกอย่าง สำคัญคือเรามีทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ แต่ทำไมปัตตานียังเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุด การแก้ไขเราคงไม่ต้องการให้ใครมาสงเคราะห์ เราต้องการโอกาส โอกาสหนึ่งของลูกหลานคือได้มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ประชาชาติเป็นนวัตกรรม อยากเป็นพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย ส่งเสริมพหุวัฒนธรรม ความหลากหลายในพื้นที่ ต้องมีเอกภาพ มีพลัง เป็นสิ่งสวยงาม”
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า พรรคประชาชาติมีนวัตกรรมที่ต้องเร่งทำคือ ต้องพาพี่น้องในชายแดนใต้ให้หลุดพ้นปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องมีอาชีพ คิดว่าประชาชาติเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรารู้จักวิธีแก้ปัญหา
“วันนี้เราหนีไม่พ้น เมื่อไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก อาชีพที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดคือเกษตรกรรม ยังมีความยากจน แต่คนค้าสินค้าเกษตรกลับรวยที่สุด”
“เรื่องการศึกษายังเหลื่อมล้ำที่สุด คือโรงเรียนรัฐส่งเสริมการศึกษาเด็กต่อหัวต่อคนต่อปี คือ 55,000 บาท ส่วนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามได้ 13,000-14,000 บาท นี่คือความเหลื่อมล้ำ ทั้งที่เอกชนคือหนึ่งในการดิ้นรนเพื่อความหลุดพ้น พวกเราต้องการเรียนในอุดมการณ์ ความเชื่อ และเรียนศาสนา แต่ครูสอนศาสนากลับไม่มีค่าตอบแทนเลย นี่คือตัวอย่าง”
“พรรคประชาชาติต้องเอาปัญหาของประชาชนเรื่องการศึกษา สวัสดิการ แก้ปัญหาความยากจนไปสร้างรัฐสวัสดิการ เด็กแรกเกิดถึง 20 ปี จบมหาวิทยาลัย อย่างน้อยควรมีสวัสดิการอย่างน้อย 3,000 ต่อเดือน หรือพ้นเส้นความยากจน การศึกษาฟรีไม่ทำให้คนตาย ความเหลื่อมล้ำหรือความยากจนต่างหากที่ทำให้คนตาย”
“วันนี้พรรคต้องกล้าเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ท่าน ส.ส.สมมุติ เบ็ญจลักษณ์ (ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ) นำปัญหาของลูกหลานในทุกมิติไปพูดในสภา ล่าสุดปัญหาลูกหลานที่ไปเรียนที่มาเลเซียต้องอยู่แบบผิดกฏหมาย ต่อวีซ่าก็ยาก รัฐบาลไทยก็ไม่อุดหนุนทุนการศึกษา นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่เราทำได้เราเชื่อมั่นว่าพรรคประชาชาติเกิดมาเป็นของพวกเราทุกคน หัวหน้าพรรค อ.วันนอร์ เป็นคนยะลา เราต้องให้พรรคที่เกิดในสามจังหวัดแก้ปัญหาให้คนสามจังหวัด และจะเป็นพรรคที่แก้ปัญหาของประเทศไทย” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว
@ เลขาธิการพรรคประชาชาติ ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงาน “การสร้างความเท่าเทียมและการลดความเหลื่อมล้ำของการศึกษาภาคใต้” ในพื้นที่ “เมืองแห่งอูลามาอ์” อ.จะนะ จ.สงขลา
โรงเรียนศาสนบำรุง ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงาน การสร้างความเท่าเทียมและการลดความเหลื่อมล้ำของการศึกษาภาคใต้” โดยมีประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา, ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้, ประธานชมรมโรงเรียนตาดีกา (ปุสตากา) อำเภอเมือง จ.ปัตตานี เข้าร่วมประชุมอย่างคึกคักพร้อมเพรียง
โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี ได้ร่วมระดมสมองและเสนอความเห็นเพื่อกำหนดทิศทาง เป้าประสงค์ทางการศึกษา พร้อมการสร้างสรรค์มนุษย์ให้เต็มคุณค่าและลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ แผนงาน และแผนปฏิบัติงานของพรรคต่อไป นอกจากนั้นยังได้ร่วมรับฟังข้อเสนอผลการสัมมนาการลดความเหลื่อมล้ำและความเสมอภาค รวมทั้งคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นทัศนะจากผู้เข้าร่วมประชุมอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.มีชัย ออสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะอนุกรรมาธิการด้านการศึกษา ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564, 2565 และ 2566 รวมทั้งเป็นคณะทำงานยุทธศาสตร์การศึกษาของพรรคประชาชาติ ได้ร่วมบรรยายพิเศษหัวข้อ “การสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำการศึกษาภาคใต้ภายใต้รัฐธรรมนูญ: จากทฤษฎีสู่ปฏิบัติ” ด้วย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคประชาชาติตั้งใจเป็นพรรคการเมืองที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการศึกษา การสร้างคนเพื่อพัฒนา โดยการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำข้อมูลไปจัดทำนโยบายของพรรค รวมทั้งยังมองว่าการหาเสียงคือการทำสัญญาประชาคมกับประชาชน
“เราคุยกับประชาชน เราไม่คุยกับผู้มีอำนาจ ที่ผมพูดผมเอาหัวใจพูด ไม่ได้พูดเพื่อเอาใจ ทั้งหมดต้องฟังเสียงประชาชน และ เราคุยกับประชาชน” เลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุ
สำหรับ อ.จะนะ จ.สงขลา ถูกหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. กำหนดให้เป็น “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” โดยจะมีการสร้างนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ โรงงาน และโรงไฟฟ้า เพื่อรองรับอุตสาหกรรมหนักในพื้นที่ แต่มีประชาชนชาวจะนะจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วย และออกมาคัดค้าน โดยคนในพื้นที่ต้องการให้จะนะเป็น “เหมืองแห่งอูลามาอ์” หรือ “เมืองการศึกษา” มากกว่า “เมืองอุตสาหกรรม”