ชาวบ้านไม่ทนร้องอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีมหาดไทย ช่วยเหลือถูกนายทุนออกโฉนดทับที่ชาวบ้าน
กลุ่มชาวบ้านหมู่10 ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีมหาดไทย กรณีที่กรมที่ดินออกโฉนดให้นายทุนทับที่ทำกินชาวบ้าน ทั้งที่ชาวบ้านร้องขอกรมป่าไม้ในการเข้าทำกินในพื้นที่กรณีมากว่า 40 ปี แต่นายทุนยังได้สิทธิ์ สค.1 บินมาทับที่ชาวบ้าน และเร่งทำรังวัดออกโฉนด
นายบัญญัติ อินทรคำ ทนายความช่วยชาวบ้าน เผยว่า ตนและกลุ่มชาวบ้านได้มาร้องครั้งนี้เพราะสุดทนกับพฤติกรรมกลุ่มนายทูนและข้าราชการบางคนที่ไม่เห็นใจชาวบ้าน ปล่อยให้กลุ่มนายทุนเข้ามาแอบอ้างสิทธิ์ทำการออกโฉนดทับเส้นทางทำมาหากินของชาวบ้าน ซึ่งไม่รู้ว่ามีการออกเอกสารครอบครองที่ดินมาได้อย่างไร ทั้งที่ป่าไม้จังหวัดอนุญาตให้ชาวบ้านทำกินอยู่กับป่าได้มาตลอด แต่กลุ่มนายทุนใช้เอกสาร สค.1 มาทับได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัด เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัด ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ ทั้งที่นายทุนอ้างสิทธิ์มาได้โดยไม่เคยมาทำกินในพื้นที่นี้เลย มีแต่กลุ่มทหารพัฒนานำรถมาไถดินเปิดทาง ชาวบ้านหลงดีใจนึกว่ามาช่วยชาวบ้าน แต่สุดท้ายทำให้กลุ่มนายทุน นายพล ชาวบ้านได้รวมตัวกันร้องเรียนทั้งระดับอำเภอ จังหวัด จนมาถึงรัฐมนตรีนี้แล้วยังช่วยชาวบ้านไม่ได้อีกก็สุดจะทนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ขณะที่กลุ่มชาวบ้านเดินทางมาขอพบท่านรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่มหาดไทย ได้ต้อนกลุ่มชาวบ้านหลบท่านรัฐมนตรีที่่กำลังให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์อยู่ โดยมีนางสาวนิชานันท์ ทรัพย์สมบูรณ์ หน.กลุ่มงานร้องทุกข์ สนง.รัฐมนตรีหมาดไทยรับเรื่องแทน
มีความประสงค์ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเป็นเอกสารหลักฐานที่ใช้แสดงตน
๑. บัตรประจำตัวประชาชนด้วยชาวบ้านหมู่ที่ ๑๐ ตำบลบ้านโตก อำเภยเมื่อเมืองเพรรณ์ จังทัพเพรบูพรบูรณ์ใด้รับ
ความเดือดร้อนจากการออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่บุคคลที่ไม่เคยเข้าทำกินในที่ดินบ้านพนานิคม หมู่ ๑๐ตำบลบ้านโตก อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์นี้มาก่อน ซึ่งต่อมาทราบภายหลังว่ามีซึ่งเป็นยศทางทหารระดับนายพล ได้เข้ามาออกโฉนดทับที่ดินบริเวณที่ดินที่ชาวบ้านทำกินและบริเวณใกล้เคียง มีบางแปลงเข้ามาในผืนบำของทางราชการ มีจำนวนกว่า ๑.๐๐๐๐ ไร่ พวกข้าพเจ้าได้เคยร้องเรียนยังสถานที่ราชการที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น อาทิ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ศูนย์ดำรงธรรม ป้าไม้จังหวัด ที่ดินจังหวัด โดยเข้าร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินของที่ดินหมู่ ๑๐ บ้านพนานิคม ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรณ์
จ.เพชรบูรณ์ ว่ามีความไม่เท่าเทียมถึงการออกเอกสารสิทธิดังกล่าวให้แก่บุคคลที่มียศนายพล แต่ไม่
สามารถออกให้กับชาวบ้านที่ทำกินมาก่อนอันแสดงถึงความเหลื่อมล้ำ เป็นการออกให้เฉพาะแก่กลุ่ม
นายทุน ใช่หรือไม่ การออกเอกสารสิทธิ์มีความถูกต้องยุติธรรมหรือไม่ และเป็นข้อพิรุจสงสัยว่าเป็นการ
ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เหตุใดกรมที่ดินจะมีการดำเนินการรังวัด เพราะเหตุใดชาวบ้านที่
อาศัยทำกินไม่ได้
ก่อนนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทนี้เคยยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบที่ดิน
สาธารณประโยชน์แปลงโคกตาด เนื้อที่ ๑๐,๐๐๐ ไร่ จังหวัดเพชรบรณ์ เกี่ยวกับขันตอนการออกหนังสือ
สำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ พช.๑๕๔๙ ที่มหาดไทยประกาศสงวนเป็นที่เลี้ยงสัตว์สาธารณะ ไม่ตรงกับ
ระยะจดแจ้งประกาศไว้ในปี ๒๔๖๙ และค่ากล่าวอ้างของอดีตกำนัน ซึ่งแจ้งว่ามีบุคคลแอบอ้างปลอม
ลายมือชื่อ นำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบเอกสารรังวัดที่ดินจนกลายเป็นข้อพิพาท และเป็นเหตุให้ชาวบ้าน
ตำบลป้าเลาและตำบลนางั่ว จำนวน ๔๓ ราย ต้องถูกขับไล่และจำนวน ๒๖ คน ถูกฟ้องบังคับ
ล่าสุดเรื่องนี้มีความคืบหน้า วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๕๖๕ คณะกรรมาธิการการป้องกันและ
ราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริง ยืน
ความผิดพลาดคลาดเคลื่อน
จึงเชิญผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยให้เข้าร่วมวาระการ
ประชุมเพื่อร่วมดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาร่วมกับชาวบ้านการพิพาทได้มีการใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศกรมแผนที่ทหาร ปี ๒๕๕๓ ออกโดยนายทหารวิเคราะห์และพัฒนาระบบ ยังคงเป็นหลักฐานที่กลุ่มชาวบ้านใช้ยืนยันต่อสู้สิทธิในที่ดินว่าพวกเขาไม่ได้เป็นผู้บุกรุกที่สาธารณะประโยชน์เปลงโคกตาดตามที่ศาลปกครองตัดสินที่ดินจะดำเนินการเข้าทำการรังวัดพื้นที่สาธารณะประโยชน์แปลงโคกต๐,๐๐๐ ไร่ใหม่อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบพิสูจน์ หาสาเหตุความผิดพลาด และแก้ไขขั้นตอนกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ พช.๑.๑๕๙ เนื้อที่ ๑,๙๙๗๗ ไร่ ที่มหาดไทยประกาศสงวนเป็นที่เลี้ยงสัตว์สาธารณะ และเนื้อที่อีกจำนวนกว่า ๘,๐๐๐๐ไร่ ซึ่งมีข้อมูลว่า ถูกบุกรุกออกเป็นโฉนด มีหมู่ห้างสรรพสินค้า และนักการเมือง ผู้มีอิทธิพล นายทุน ข้าราชการระดับสูง ครอบครองโฉนดเอกสารสิทธิจำนวนมาก และหากพบเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดต่อหน้าที่ ก็จะดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
การออกโฉนด ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิ์ในที่ดินบ้านพนานิคมนี้ มีการออกเป็นโฉนดจำนวน
มากถึงเกือบ ๑,๐๐๐ ไร่ ซึ่งมีบางแปลงออกโดยไม่เคยได้เข้ามาทำประโยชน์ในที่ดิน และมีโฉนดบาง
แปลงได้ออกทับที่ดินที่ชาวบ้านทำกินมาก่อน เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านผู้ทำมาหากิน
โดยสุจริต โดยชาวบ้านที่ทำกินในบริเวณนั้น มีเพียงเอกสารสิทธิ์ที่ทางราชการออกให้ คือ สค.๑ และ
ภบท ๕ต่อมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในที่ดินพิพาหนี้ เพิ่งทราบว่านายพลฯ และพวกอีกหลายคมได้เข้ามาดำเนินการออกโฉนดทับที่ดินแปลงที่ชาวบ้านได้ทำกินมาก่อน
ภาพข่าว/@Nopporn H Jeffy /นสพ.แผ่นดินไทยโพสต์/รายงาน