สุดเศร้าสลดใจลูกควายถูกขโมยไปชำแหละตามหาพบเหลือแต่ซาก เจ้าของโพสต์สุดรักสุดเศร้าและสุดเสียดาย

สุดเศร้าสลดใจลูกควายถูกขโมยไปชำแหละตามหาพบเหลือแต่ซาก เจ้าของโพสต์สุดรักสุดเศร้าและสุดเสียดาย

สุดเศร้าสลดใจลูกควายถูกขโมยไปชำแหละตามหาพบเหลือแต่ซาก เจ้าของโพสต์สุดรักสุดเศร้าและสุดเสียดาย

วันที่ 26 ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “เชือกที่เค้าจูงเจ้าไปชำแหละ แม่เจ้าก็ยังเอาหญ้ามาวางไว้ให้เจ้าเหมือนทุกวัน ต่างกันเพียงแค่ไม่ได้ปั่นจักรยานไปหาเจ้าแล้ว“ เหตุเกิดที่บ้านหนองหอย ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ กระทำเหตุขณะยังกลางวันแสกๆ ขณะนี้ยังจับตัวผู้กระทำความผิดไม่ได้ ความโหดเหี้ยม อำมหิตเช่นนี้ ขวัญเจ้าไปอยู่ไหน กลับมาเด้อ กับข้าวอร่อยน่ากินขนาดไหนเจ้าของก็กินไม่ลง นอนไม่เต็มอิ่ม หากมีทางไหนพอช่วยเจ้าได้บ้าง”พร้อมกันนี้ก็ได้โพสต์ภาพเชือกผูกควายโดยที่มีหญ้าวางอยู่บนเชือกดังกล่าว รวมทั้งภาพควายตัวหนึ่งที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ และภาพถุงปุ๋ยที่ใส่อะไรสักอย่างไว้ข้างในโดยที่มีคราบเลือดติดอยู่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้” และทราบต่อมาว่าเจ้าของความดังกล่าวคือนางเบียน ป้องพั้ว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 6 ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์


ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบนางเบียน ป้องพั้ว เปิดเผยว่าตนอาศัยอยู่กับลูกสาวมีอาชีพเลี้ยงควายมีควายอยู่ทั้งหมด 6 ตัวแต่ทำคอกไว้ห่างจากบ้านและชุมชนเพราะเกรงว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้ชุมชุน ทุกๆวันตนก็จะปั่นจักรยานเพื่อไปเลี้ยงและพาไปหาแหล่งอาหารและน้ำตามชายป่าเชิงเขา โดยผูกไว้กับตามต้นไม้และให้ควายเล็มหญ้าในบริเวณนั้นๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา ตนก็นำควายออกไปเลี้ยงและผูกไปตามเชิงเขาตามปกติ จากนั้นเวลาประมาณ 4 โมงเช้าตนก็เดินลงไปหาหอยในแหล่งน้ำซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ผูกควายไว้ประมาณ 200 เมตร แต่ว่ามีเนินเล็กๆบังอยู่ ประกอบกับต้องลงไปหาหอยในสระน้ำจึงไม่สามารถมองเห็นควายได้ กระทั่งใกล้เที่ยงตนขึ้นมาเพื่อจะกินข้าวก็พบว่าลูกควายอายุประมาณ 1 ปีชื่อ“อั่งเปา” เป็นเพศผู้ที่แสนรู้มาก

ตนเลี้ยงไว้เพื่อจำใช้เป็นพ่อพันธุ์ ได้หายไป 1 ตัว ตอนแรกตนก็ไม่เอะใจเพราะคิดว่าควายอาจจะหลุด จึงเดินออกหาแต่ก็ไม่พบ จึงได้ใช้วิธีให้ลูกควายอีกตัวที่ชอบเล่นด้วยกันเดินตามและร้องหา แต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่งค่ำจึงหยุดค้นหา พอรุ่งเช้าของวันที่ 20 ม.ค.2568 จึงได้ชวนลูกๆ ออกค้นหาอีกครั้ง กระทั่งพบถุงปุ๋ยที่ซ่อนอยู่ในพงไม้จึงเข้าไปดูก็พบว่ามีกองเลือดจึงนำออกมาเปิดดูถึงกับผงะพบว่าเป็นซากของควายและตนก็เชื่อว่าเป็นควายตัวที่หายไปอย่างแน่นอน เพราะที่บริเวณต้นไม้ใกล้กันมีเชือกมัดอยู่กับต้นไม้ คาดว่าจะต้องมีคนร้ายมาจูงจากจุดที่ผูกไว้และมาทำการเชือดที่บริเวณนี้ และกำลังจะเตรียมเคลื่อนย้ายซากลูกควายไปที่อื่น ตนเห็นแล้วทำใจไม่ได้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านติ้วเพื่อมาตรวจสอบ


ซึ่งจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบถังน้ำ 2 ใบ รองเท้าซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้าย 1 ข้าง และนอกจากนั้นยังพบรถยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่ภายในจุดที่อยู่ใกล้เคียง แต่ไม่พบเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำไปเก็บไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนเสียใจและหวาดกลัวเป็นอย่างมากจึงได้ทำคอกและย้ายควายทั้งหมดมาอยู่ข้างๆ บ้าน เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก และนอกจากนั้นชาวบ้านบางรายซึ่งทราบเรื่องก็ได้ขายควายที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันตนจากวันที่ 20 ม.ค.2568 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ตนไปถามก็ได้รับคำตอบว่าต้องทำตามขั้นตอน ตนจึงให้ลูกสาวนำเรื่องราวโพสต์ลงโซเชียล เพื่อเป็นการเตือนภัยและเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ลูกควายอั่งเปาตัวดังกล่าวด้วยจากการสอบถาม ร.ต.อ.อำนาจ สุวรรณชาติ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านติ้ว เจ้าของคดี ทราบว่า ในเบื้องต้น ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านติ้วลงพื้นที่และพบหลักฐานข้อมูลมากพอจะทราบได้ว่าผู้ร้ายเป็นใคร อยู่ระหว่างขั้นตอนเชิญตัวมาให้ปากคำที่ สภ.บ้านติ้ว และดำเนินการทางคดีต่อไป

นายศุภเดช คำพุฒ / นายสมชาย คำพุฒ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม