กาญจนบุรี ต้องมีการตรวจสอบก่อนเพื่อรักษาผลประโยชน์คนไทย นายอำเภอสังขละบุรี ชี้แจงกรณีทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า ได้ทำการตรวจยึดยางพาราไว้ตรวจสอบหลักฐาน บริเวณจุดชั่งน้ำหนัก ร้านอทิตาพาณิชย์ หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 3,700 กก. โดยมียางพาราของกลาง ที่ยอดเกินจากใบขออนุญาต
วันนี้ 14 มี.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ได้ชี้แจงจากกรณี ที่ทางทหารกองกำลังสุรสีห์ ชุด ฉก.ลาดหญ้า ได้รับแจ้งจากทางประชาชนว่า อ.สังขละบุรี ได้รับหนังสือจากประธานกลุ่มเกษตรกร บ.พระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ว่ามี “กลุ่มผู้ปลูกมันสำปะหลังและยางพารา” ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับ สนง.เกษตร อ.สังขละบุรี มีความประสงค์ขอนำผลผลิตทางการเกษตรเพื่อจำหน่ายในพื้นที่ตอนใน จากชายแดนเพื่อนบ้านบริเวณช่องทางบ่อขยะ ผ่านจุดตรวจน้ำเกริ๊ก ระหว่างวันที่ 5 – 14 มี.ค.64 โดย สนง.เกษตร อ.สังขละบุรี ได้ดำเนินการตรวจสอบสิทธิ์ในพื้นที่ปลูกและได้รับรองสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว
จากการตรวจสอบแล้วทราบว่ายางพาราดังกล่าว ได้ซื้อมาจาก จาก น.ส. ชลธิชา ภู่ศรี และ นาย ราเชน อภิโช ซึ่งอยู่ในพื้นที่เพื่อนบ้านจำนวนหนึ่ง แล้วทำการขนผ่านบริเวณช่องทางบ่อขยะ ผ่าน จุดตรวจร่วมบ้านน้ำเกริ๊ก เข้ามายัง ร้านอทิตาพาณิชย์ โดยได้ทำการตรวจสอบน้ำหนักปรากฏว่า มีน้ำหนักเกินจากที่ได้รับอนุญาตให้ทำการขนย้ายทั้งสิ้นถึง 2,200 กก.
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุม มิให้มีการนำ สินค้าทางการเกษตรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนควบคุมทางการเกษตร เข้ามายังประเทศไทย อันจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ปลูกยางพาราในประเทศไทย
โดยหลังจากที่ทำการตรวจยึดเพื่อตรวจสอบยางพาราทั้งหมดนั้น ได้มีการนำภาพไปลงในโลกโซเชียส ทำให้มีผู้เข้าไปคอมเม้นเป็นจำนวนมากในระยะเวลาไม่นาน ซึ่งเรื่องดังกล่าว อาจสร้างความเข้าใจผิดจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและสร้างความเข้าใจผิดกับทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในครั้งนี้
ล่าสุด นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ได้ออกชี้แจงกับสื่อมวลชน ว่าเพิ่งได้รับรายงานเรื่องการขนยางพาราดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่ชายแดนสังขละบุรี มีหน่วยงานหลายหน่วยเกี่ยวกับความมั่นคง โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรบ้างชนิดเป็นเพียงการตรวจยึดไว้เพื่อเป็นการตรวจสอบ เพราะทหารเองมีกฎหมาย ดูแลเรื่องนี้อยู่ จึงต้องทราบที่มาที่ไปของยางพาราทั้งหมด ว่าได้มาจากที่ใด เป็นของในพื้นที่ของเกษตรกรไทย หรือว่าได้นำเข้ามาจากเพื่อนบ้าน เพราะต้องยอมรับว่า ในพื้นที่เพื่อนบ้านก็ได้ทำการปลูกยาพารา เป็นจำนวนมหาศาล ไม่น้อยกว่าของในพื้นที่ประเทศไทย โดยเฉพาะยางพารา หากเป็นยางที่ปลูกในสังขละบุรี ทางเกษตรอำเภอจะต้องมีหลักฐานในการอนุญาต หากพบว่าออกมาอย่างถูกต้องก็ไม่มีปัญหา แต่หากไม่พบการนำออกมาไม่ถูกต้อง เพราะที่ออกมามันเกินจากที่ขออนุญาต จะต้องมีการตรวจสอบในเชิงลึก เพื่อปกป้องให้กระทบกับเกษตรกรไทย
สำหรับกรณีที่ผู้เสียหายนำภาพลงโฟสต์ในโลกโซเชียส กล่าวหาการทำงานของหน่วยความมั่นคง เพราะเพื่อนบ้านเองก็มีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ประกอบกับในบ้านเขาก็ประสบปัญหาการเมืองอยู่เวลานี้ การลักลอบมีบ้างหลบหนีได้บ้างไม่ได้บ้าง เรื่องนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบ และยางพาราในบ้านเราราคาไม่สูงแต่หากมีการลักลอบนำเข้าก็จะเอาไปยังประเทศที่สาม โดยการนำไปลงเรือส่งต่อไปในประเทศต่างๆ โดยการลักลอบผ่านจากบ้านเราไป มีการตรวจสอบตลอดเวลา และเราได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเกิดปัญหาในบ้านเขา จึงมีการลักลอบนำเข้ามาก็เป็นได้ขอเวลาการตรวจสอบชัดเจนอีกครั้ง./
///////////////////////////
ทีมข่าวภูมิภาค / กาญจนบุรี