เลย-อากาศร้อนน้ำเน่าเสียปลาในกระชังน็อคตายกว่า 1,000 กก.

เลย-อากาศร้อนน้ำเน่าเสียปลาในกระชังน็อคตายกว่า 1,000 กก.

เลย-อากาศร้อนน้ำเน่าเสียปลาในกระชังน็อคตายกว่า 1,000 กก.
อ.เมืองเลย จ.เลย เกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชังแม่น้ำเลยเศร้า ผลกระทบจากสภาพอากาศร้อน น้ำในแม่น้ำเน่าเสีย ปลาน็อคตายกว่า 10000 กก.ต้องรีบส่งขายและฝังกลบ
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 21 มี.ค.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่ามีปลาในกระชังและปลาตามธรรมชาติน็อคตายขอความช่วยเหลือจากทางราชการด่วน ในแม่น้ำเลย บริเวณบ้านโป่ง ต.นาแขม อ.เมืองเลยและ บ้านธาตุ ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย โดยปลาที่น็อคตายนั้นเจ้าของกระชังปลาได้นำออกไปขายและทำการฝังกลบแล้ว

จากการสอบถามนางจันทร์ ภูรัตน์ บ้านเลขที่ 17 หมู่ 7 บ้านปากหมาก ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย จ.เลย กล่าวว่า เกษตรกรชาว อ.เมืองเลย อ.เชียงคาน เลี้ยงปลากระชังกันจำนวนมากในแม่น้ำเลย แต่มาปี 2564 ได้ลดจำนวนกระชัง/บ่อลงมาก เนื่องจากการวิกฤติของอากาศร้อนจัด หนาวจัด น้ำเน่าเสีย มีสิ่งเจือปนมากในน้ำ เป็นต้น รวมทั้งมีการสร้างฝายต่างๆ น้ำจึงไม่มั่นคงไม่มีอะไรแน่นอน ปลาปรับตัวไม่ทันก็เกิดอาการน็อคลอยตายเป็นแพทุกปี สำหรับปลาที่ตายครั้งนี้เกิดขึ้นพื้นที่บ้านโป่ง ต.นาแขมต่อจากบ้านของตนลงไปทางท้ายน้ำลงไป
ตนได้รับการแจ้งจากเจ้าของบ่อ/กระชังที่รู้จักกันดีให้ไปช่วยจับช่วยขนปลาขึ้นจากกระชังในแม่น้ำเลยและช่วยนำไปขายให้ด้วย เป็นปลานิลสีดำทั้งหมด มีหลายรุ่นอายุ เพราะเจ้าของเป็นเกษตรกรรายใหญ่ของการเลี้ยงปลา โดยมีปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชัง 40 บ่อๆ 500 ตัว ในครั้งนี้ตายไปกว่า 1,000 กก. ปลาที่ตายใหม่ๆก็นำไปขาย 100 บาท / 3 กก.ตามหมู่บ้าน ตามตลาด และอำเภอใกล้เคียง โดยปลานิลปกติจะขาย 65 บาท/กก. ส่วนปลาที่เริ่มมีกลิ่นก็จะนำไปฝังกลบทั้งหมด ด้านสาเหตุการตายนั้น ต่างคิดกันว่าน่าจะมาจากโรงงานปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำเลยเพร่ะปลารอบกระชังหรือปลาในแม่น้ำเลยตามธรรมชาติก็ลอยตัวตายเหมือนกัน แต่ทางโรงงานบอกว่าไม่ได้ปล่อยของเสียหรือน้ำเสียแต่อย่างใด ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างทางราชการเข้านำน้ำตัวอย่างไปตรวจให้ชัดเจนออกมาว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่
———————–///—————–


บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย

ร้องทุกข์ ร้องเรียน