ธารน้ำใจชาวมหาสารคาม ร่วมบริจาคทรัพย์ สิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
(11 พ.ค.64 ) ที่ หน้าศาลากลาง จ.มหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.มหาสารคาม พร้อมด้วย นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ นายธรรมนูญ แก้วคำ นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ รอง ผวจ.มหาสารคาม และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมรับมอบเงินสด สิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้มีจิตอันเป็นกุศล ที่นำมามอบให้กับ ศูนย์บริหารการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) จ.มหาสารคาม เพื่อนำไปจัดเป็นถุงยังชีพแจกจ่ายช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
โดยวันนี้ พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม มอบเงินสดจำนวน 50,000 บาท ,มูลนิธิการกุศลมหาสารคาม จีเสียงเกาะ มอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มูลค่า 70,000 บาท ,สำนักงานคลัง จ.มหาสารคาม สำนักงานอุตสาหกรรม จ.มหาสารคาม มอบข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ,บริษัท ขวัญข้าว อินเตอร์เทรด จำกัด และโรงสีข้าว เพชรพยัคฆ์ มอบข้าวสารรวม 40 กระสอบ นอกจากนี้ ยังมีธารน้ำใจจากทั่วสารทิศที่ยังหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย
นายเกียรติศักดิ์ฯ ผวจ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า จ.มหาสารคาม ได้เปิดศูนย์บริหารการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ณ กองร้อยบังคับการและบริการ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จ.มหาสารคาม และระดับอำเภอทั้ง 13 อำเภอ โดยเปิดรับบริจาคเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อนำไปช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องกักตัวเองที่บ้านเพื่อสังเกตอาการตามมาตรการด้านสาธารณสุข ,ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ,ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วแต่ต้องกลับไปกักตัวที่บ้านอีก 14 วัน รวมถึง ผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้าง ผู้มีฐานะยากไร้ โดยพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามลำดับ สำหรับสิ่งของที่นำมาบริจาค เน้นเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา ที่จำเป็นในการดำรง ชีวิต ซึ่งศูนย์ฯ จะจัดเป็นถุงยังชีพ มอบให้กับประชาชนทุกอำเภอ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จ.มหาสารคาม ข้อมูล ณ วันที่ 11 พ.ค.2564 พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 6 คน เฉพาะในระลอกเมษายน มีผู้ป่วย 273 คน รวมผู้ป่วยสะสม 295 คน รักษาหายแล้ว 154 คน กำลังรักษา 117 คน เสียชีวิต 2 คน แม้ตัวเลขผู้ป่วยมีแนวโน้มลดลง แต่ภาพรวมของประเทศพบว่ามีการติดเชื้อในครอบครัวและเพื่อนร่วมงานสูง จึงขอความร่วมมือทุกองค์กร ทุกครอบครัว เคร่งครัดมาตรการ สวมหน้ากากอนามัยให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
/////
พิเชษฐ ยากรี /มหาสารคาม