พ่อเฒ่าพิการอยู่เพียงลำพัง เกิดความเครียดไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน ผูกคอดับอนาถ

พ่อเฒ่าพิการอยู่เพียงลำพัง เกิดความเครียดไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน ผูกคอดับอนาถ

พ่อเฒ่าพิการอยู่เพียงลำพัง เกิดความเครียดไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน ผูกคอตายลาโลก

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 พ.ต.ต.ชยุต แสงมณี พนักงานสอบสวน สภ.บางระจัน ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่ามีคนผูกคอตายภายในบ้านเลขที่ 13/4 ม.2 ต.บ้านจ่า อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรีบเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์เวรโรงพยาบาลบางระจัน ทันที

ที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่า นายบุญมี กิมเส็ง อายุ 77 ปี ได้ผูกคอด้วยเชือกไนล่อนกับหน้าต่าง ในท่านั่งหันหน้าเข้าหาฝาผนังบ้าน สวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขาสั้น ใกล้กันนั้นพบรถโยกแบบวีลแชร์ ซึ่งเป็นพาหนะประจำตัวของผู้เสียชีวิต เนื่องจาก นายบุญมี เป็นผู้พิการขาเปลี้ย กล้ามเนื้ออ่อนแรง และป่วยมีโรคประจำตัว และญาติได้เล่าว่า นายบุญมี เคยคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง อาจเกิดจากความเครียดที่ป่วยสะสมมาเป็นเวลานาน และบ่นว่าต้องเป็นภาระให้ลูก – หลานกลับมาดูแล โดยปกติผู้ตายจะอาศัยอยู่กับหลานชายคือ นายไกรสรณ์ กิมเส็ง แต่ นายไกรสรณ์ ต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด เมื่อถึงวันหยุดก็จะกลับมาหาตา ส่วนบุตรสาวได้ไปอาศัยอยู่กับสามีอีกตำบลหนึ่ง และได้โทรศัพท์มาคุยด้วยครั้งล่าสุดเมื่อค่ำของวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

นายไกรสรณ์ เล่าว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ได้โทรหา นายบุญมี ผู้เป็นตาประมาณ 30 กว่าสาย แต่ นายบุญมี ไม่ได้รับสาย จึงคิดว่าเป็นเรื่องผิดปกติและเกิดความเป็นห่วงตา จึงได้โทรหาเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้เข้าไปดูตาซึ่งมาเรียกและไม่มีใครตอบรับ จึงได้พากันพังประตูเข้าไปและพบว่าตาได้ผูกคอตายเสียชีวิตภายในบ้านแล้ว นางสาวสมใจ แก้วเล็ก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.บ้านจ่า จึงได้ประสานแจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางระจัน ทั้งนี้แพทย์ได้ชันสูตรศพ ลงความเห็นว่า นายบุญมี กิมเส็ง ได้เสียชีวิตมากว่า 12 ชม. แล้ว ทางญาติมิได้ติดใจสงสัยใดๆ เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ณัฏฐนารา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี

ข่าวอาชญากรรม