อ.พบพระ ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และ ทดแทนป่าไม้ที่เสียหายจากการบุกรุก และการเกิดไฟป่า เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

อ.พบพระ ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และ ทดแทนป่าไม้ที่เสียหายจากการบุกรุก และการเกิดไฟป่า เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

อ.พบพระ ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และ ทดแทนป่าไม้ที่เสียหายจากการบุกรุก และการเกิดไฟป่า
เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่
อ.พบพระ จ.ตาก
ถ้าเข้าพื้นที่อำเภอพบพระ
จะมองเห็นองค์พระ ตั้งอยู่ บ้านห้วยนกแล ในพื้นที่ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก
ฐานพระบ้านห้วยนกแล
มีพระพุทธมหาราชกิติเฉลิม พระพุทธรูป สร้างเฉลิมพระเกียรติพระ มหาราช เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2542
ในวันนี้
ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ตชด. ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ครูนักเรียน
ประชาชนจิตอาสา จำนวน 300 คน ร่วมกันปลูกต้นไม้ในกิจกรรมโครงการรณรงค์ปลูกต้นไม้ (Green Day) “รวมใจไทย ปลูกต้นไม้เพื่อแผ่นดิน” สืบสานสู่ 100 ล้านต้น อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ประจำปี พ.ศ. 2564 ณ บริเวณฐานพระพุทธมหาราชกิตติเฉลิม หมู่ที่ 9 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมปลูกต้นไม้ และตระหนักเห็นคุณค่ากาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับภูมิทัศน์ของสถานที่ต่างๆ ของอำเภอพบพระ ให้มีความสวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับอำเภอพบพระ จังหวัดตาก

นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์
นายอำเภอพบพระ
กล่าวว่า
การปลูกต้นไม้ในวันนี้
รณรงค์ปลูกต้นไม้ Green Day
รวมใจไทยปลูกต้นไม้เพื่อแผ่นดินสืบสานสู่ 100 ล้านต้น
อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ประจำปี พศ.2564
บริเวณฐานพระ บ้านห้วยนกแล ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระจังหวัดตาก
โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในอำเภอพบพระ และเป็นการทดแทนป่าไม้ที่เสียหายจากการบุกรุกและการเกิดไฟป่า
เพื่อรณรงค์และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับภาคประชาชนหน่วยงานองค์กรภาครัฐภาคเอกชนตลอดจนนักเรียนนักศึกษาและเยาวชน
เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่เด็กนักเรียนนักศึกษาและเยาวชนของชาติในการปฏิบัติงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายอำเภอพบพระกล่าวต่ออีกว่า
ต้นไม้ที่ปลูกเช่นต้นประดู่ ต้นตะเคียนทอง ต้นยางแดง ต้นกัลปพฤกษ์
ต้นทองอุไร
จำนวน 500 ต้น
และ อำเภอพบพระมีนโยบายปลูกต้นไม้ทุกวันพุธ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ตามท้องถิ่นต่างๆ ตามหน่วยงานต่างๆ
โดยพื้นที่ดำเนินการเป็นพื้นที่นำร่องป่าชุมชนในแต่ละตำบลพื้นที่ของหน่วยงาน องค์กรภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,999 ต้น


ชวลิต วิกุลชัยกิจ/รายงาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม