12 มิ.ย.64
โควิด-19 ยะลาพุ่ง ผู้ว่าฯสั่งงดละหมาดวันศุกร์-งดกิจกรรมทางศาสนา ขณะที่ผู้นำศาสนา ชี้ หากปฏิบัติตามกฏเกณฑ์อย่างถูกต้องปัญหาลุล่วงได้
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ระลอกเดือนเมษายน 2564 จนถึงปัจจุบันยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยเฉพาะการปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ การทำกิจกรรมทางศาสนาของกลุ่มญะมาอะห์ตับลีฆ ซึ่งมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อ
โรคไวรัสโควิด-19 ไปร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ นายชัยสิทธิ์ พาณิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดยะลา ที่ 86/2564 เรื่องมาตรการฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาคของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้มีการงดปฏิบัติศาสนกิจ (ละหมาควันศุกร์) ที่มัสยิด หรือ บาลาเซาะห์เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 10 – 30 มิถุนายน 2564
ล่าสุดวันนี้ 12 มิ.ย.64 เวลา 08.30 น. นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา และผู้นำศาสนาชื่อดังในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า สำหรับ
ลักษณะของการละหมาดวันรายอหรือละหมาดวันศุกร์
เพราะถือว่าวันศุกร์เป็นส่วนสำคัญต่อเนื่องมาจากวันรายอ หลักการปฏิบัติของมุสลิมจะต้องละหมาดในวันรายอ และละหมาดวันศุกร์จะต้องมาร่วมกันละหมาดอันนี้เป็นหลักเกณฑ์กติกา ซึ่งทางรัฐบาลก็รู้จะต้องทำอะไรบ้างอย่าง และต้องปรึกษากับสำนักจุฬาราชมนตรี ส่วนทางฝ่ายปกครองจะต้องประสานสัมพันธ์หารือกับผู้นำศาสนา ทางจุฬาราชมนตรีก็อนุมัติในหลักการวิธีการปฏิบัติ ในระดับจังหวัดก็ทำนองเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องปรึกษาประธานกรรมการอิสลามจังและกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเพราะเป็นหลักการปฏิบัติ ในกฎเกณฑ์กติกาเหล่านี้ได้ให้ไว้แล้วนั้น เป็นการผ่อนผันระเบียบจะต้องทำอย่างไร ในการละหมาดในคนหมู่มาก คนจะต้องอยู่ในจำนวนจำกัดที่กฎเกณฑ์ เช่น มีการกำหนดว่า 50 คน ควรจะอยู่ใน 50 คน ต้องยืนห่างกี่เมตร ทุกคนจะต้องสวมหน้ากาก(แมสก์)อันนี้ก็เป็นกฎเกณฑ์กติกาเพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม แต่ข้อสำคัญที่สุด ผู้นำศาสนา แต่ก็มีมัสยิดบางแห่งมีคนจรแวะมา
ต่อเนื่อง ถ้ามัสยิดไหนที่มีสัปปุรุษประจำมัสยิดก็จะมารับฟังข้อมูลเคร่งครัดและมาก่อนล่วงหน้า พวกเหล่านี้จะฟังกฎเกณฑ์กติกาอย่างชัดเจน แต่คนสัญจรหรือมาจากที่พื้นที่อื่นๆ คือค่อยสนใจในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ พวกเหล่านี้จะมาสายเวลามาสายก็ไม่ปฏิบัติตามกฎ ในขณะที่ยืนห่างช่องว่างมีพวกที่ไม่ปฏิบัติตามก็จะมาสอดตรงที่ว่าง เพราะฉะนั้นจำนวนที่ 50 คนที่ตั้งกฎเกณฑ์ไว้แล้วอาจจะเกินขึ้นมาตรงนั้นได้ จะเห็นว่าก่อนหน้านี้มัสยิดบางแห่งถูกสั่งปิดอันเนื่องมาจากเพราะว่าปริมาณคนมากคุมไม่ทัน
คนจะติดเชื่อโรคโควิด-19 จะทำให้มีการแพร่ระบาดคนอื่นๆก็ถูกปิดเป็นบางแห่งแล้ว พอมีการรวมละหมาดจะถูกปิด หมู่บ้านก็ถูกปิดตามมา เมื่อเราสังเกตุบางแห่งที่มีการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์กติกาอย่างถูกต้อง ก็อยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ประสบปัญหา อันนี้เป็นไปตามคำสอนของศาสนาอิสลามอยู่แล้วว่า “ตรงไหนที่มีเชื้อแพร่ระบาดและตรงไหนที่เป็นภัยต่อชีวิตก็ต้องห้ามเข้า” สำหรับลักษณะอย่างนี้ ที่มีการสั่งไม่ให้มีการละหมาดที่มัสยิดในช่วงนี้ ออกคำสั่งตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน ไปจนถึง ปลายเดือนนี้ ถ้าพี่น้องมุสลิมเข้าใจกฎเกณฑ์กติกาในจุดตรงนี้ได้ มีการยืนห่าง สวมหน้ากาก(แมสก์)ทุกคน และให้ทุกคนมีความระมัดระวังป้องกันตนเองให้มากที่สุดอย่าไปคิดว่าทำไมตลาดไม่ปิด ตรงนั้นไม่ปิด ตรงนี้ไม่ปิด อย่าไปโยงตรงนั้น เพราะระบบการควบคุมของเขาไม่เหมือนกัน ตนเองเชื่อว่าถ้าพื้นที่ไหนพยายามรักษากฎเกณฑ์กติกาลดปริมาณคนในการไปรวมกลุ่มมากๆยืนห่าง สวมหน้ากาก(แมสก์)
เรียบร้อยทุกคนปฏิบัติตามกฎกติกาโอกาสที่จะทำให้พวกเราสามารถรวมกันในมัสยิดอย่างปกติเร็วขึ้น
ทางด้าน นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวในเรื่องนี้ว่า ก็การสัมผัสร่วมกันในชุมชน ในงานเลี้ยงต่างๆ ในงานเลี้ยงในชุมชน รวมถึงการทำกิจกรรมทางศาสนาโดยเฉพาะการละหมาดเช่น การอาบน้ำละหมาดในส่วนของมัสยิดและการจัดกิจกรรมในช่วงมันเป็นผลจากในช่วงที่กิจกรรมช่วงหลังรายอที่ผ่านมา การร่วมญาติและเยี่ยมญาติที่มาจากต่างจังหวัด มีงานที่มีการกินข้าวงานสร้างสรรค์ร่วมกัน ก็เลยทำให้เป็นผลมาจากในส่วนของตอนนี้ ในบางส่วนก็อาจจะมีงาน เช่นงานศพ ก็จะมีคัสเตอร์ของงานศพ ก็จะมีร่วมด้วย ในส่วนคนที่กลับจากต่างจังหวัดก็จะมีกลับมาแล้วก็ไม่ได้รายงานตัวกับเรา แล้วก็ทำให้ไปอยู่ในชุมชน ตรวจเจอตอนที่มีอาการแล้ว เช่นกรงปีนังตอนแรกก็จะสงบเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีในส่วนที่กลับมาจากโรงงานที่แถวเพชรบุรี ก็ต้องขอบคุณเขาด้วยเหมือนกันโทรเขาได้รับรู้ว่าสามียืนยัน เขาก็เข้าไปในโรงพยาบาลเลย. แต่ว่าเค้าไม่ได้เข้าในส่วนของแอลคิวก่อน แต่ตอนนี้ทางคัสเตอร์ ในพื้นที่ของ อ.กรงปีนัง ก็ไม่ได้อะไรเยอะ กำลังเฝ้าวันที่ 7 ต่อกับ 14 วัน ในส่วนของตอนนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ขอความร่วมมือ ในเรื่องของการงดการละหมาดเพราะว่าในการละหมาดในช่วงนี้ชาวบ้านไม่ได้เว้นระยะห่างเหมือนเมื่อก่อนตามที่บอก ตนเองเลยสงสัยว่าจังหวัดยะลาจะการ์ดตกหรือเปล่า ส่วนหนึ่งก็คือการเว้นระยะห่างในการที่ทำกิจกรรมร่วมกันต้องมีพื้นที่อย่างน้อยต้อง 1 – 2 เมตร ในการที่จะเว้นระยะห่างแล้วก็อีกอันนึงก็คือ เรื่องของการคัดกรองที่เข้ามาจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ทัังสองอย่างนี้ การรวมตัวกันก็จะมีความเสี่ยงทันที โดยเฉพาะกิจกรรมทางศาสนา และก็วัฒนธรรมประเพณีบางอย่าง ก็จะทำให้เกิดการเอื้อต่อกันมีสภาวะติดเชื้อง่ายขึ้น เพราะตนเองมองว่าถ้าอย่างนี้น่าจะการ์ดตก และก็เรื่องหน้ากากอนามัยก็ยังขอดูแล้วมีวินัยอยู่และส่วนหนึ่งคือการเว้นระยะห่าง การล้างมือ เพราะว่าเกิดจากการกินร่วมกันด้วย การสร้างสรรค์หรืองานเลี้ยงเกิดขึ้น ปลดหน้ากากลงเพื่อจะทานอาหารร่วมกัน และเมื่อไหร่ถ้ารับประทานอาหารร่วมกันก็จะทำให้เราใช้ภาชนะร่วมกัน เช่น กินข้าวใช้มือแล้วกินภาชนะร่วมกันโอกาสที่ติดก็สูงมาก หรือแม้แต่การอาลน้ำละหมาดที่จะเข้าไปละหมาด ให้อาบน้ำมาจากบ้านและค่อยเข้ามาทำพิธี ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าบางส่วนยังต้องกลับไปใช้เรื่องการอาบน้ำละหมาดร่วมกัน ซึ่งอันนั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะว่าเราพยายามที่จะรักษาวินัยการ์ดไม่ตกจนเราเป็นจังหวัดสุดท้ายที่ไม่มีเชื้อ
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา/