รองผู้ว่าฯเชียงรายลงพื้นที่ จัดประชุมหารือ ย้ำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด – 19 ในกลุ่มคลัสเตอรตับเต่า อำเภอเทิง
นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะทำงานติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ประชุมหารือ พร้อมติดตามสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันอังคารที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
เพื่อหารือในด้านสถานการณ์ในพื้นตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โดยมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
โดยการนี้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากกรณีคลัสเตอร์ ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันมีพี่น้องชาวไทยภูเขา ชนเผ่าม้ง ติดเชื้อโควิด – 19 อยู่ จำนวน 72 ราย ซึ่งจากรายงานวันนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น มีการติดเชื้อลดลง โดยได้มีข้อสั่งการจาก นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.อ.เทิง) เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งกลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำอย่างทั่วถึงแล้ว
โดยทาง ศปก.อำเภอเทิง ก็ได้ดำเนินมาตรการแยกกลุ่มเสี่ยงมาอยู่ในสถานที่กักกันกลาง ทั้งหมด 4 แห่ง ขณะที่ผู้ที่อยู่ในครัวเรือนเดียวกัน หากพบเชื้อจะให้กักกันตนเองอยู่ในบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 223 คน โดยจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานกักกันที่แยกกลุ่มเสี่ยงออกมามีประมาณกว่า 100 คน
สำหรับมาตรการในที่ประชุม จะต้องให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มที่มีความเสี่ยง ที่เป็นครัวเรือนของผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่มีจำนวน 33 ครัวเรือน กลุ่มนี้ให้กักตัวในบ้าน และให้มีการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่รัฐ กำนัน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเฝ้าระวังอาการ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป คาดว่าหากไม่มีสถานการณ์แทรกซ้อนเข้ามาไม่เกิน 15 วันสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอย่างแน่นอน
ทางด้าน นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่า สองพี่น้องติดโควิด เก็บกระเป๋าไปโรงพยาบาลสนาม โดยลากของขึ้นรถเองไร้คนช่วยเหลือนั้น จากการตรวจสอบแล้วปรากฎว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด มีการบิดเบือนข้อมูล โดยมีการนำเสนอภาพเพียงบางส่วนทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด ทาง ศปก.อำเภอเทิงไม่ได้เพิกเฉย หรือ ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด กลับได้ให้ความสนใจดูแลทุกข์สุขของคนในชุมชนอย่างเท่าเทียวทั่วถึง และจะไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลังด้วย
ซึ่งข้อเท็จจริง ก็คือในวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา เด็กชายทั้งสองคน ซึ่งมีพ่อแม่รวมถึงคนในครอบครัวติดโควิค -19 และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเทิง โดยพ่อได้พบการติดเชื้อโควิด-19 ก่อน และต่อมาพบว่าแม่และน้องสุดท้องได้รับการตรวจและพบการติดเชื้อโควิด-19 และถูกนำตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ทำให้ไม่มีผู้ดูแลเด็กทั้งสองคน ประกอบกับเด็กทั้งสองคนเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสผู้ติดเชื้อในครอบครัวเดียวกัน ทางพ่อของเด็กทั้งสองจึงโทรติดต่อไปยังกำนันตำบลตับเต่า เพื่อให้รับตัวเด็กทั้ง 2 ไปอยู่ในสถานที่กักตัว เพราะเป็นห่วง ไม่มีคนดูแล เนื่องจากพี่ชายอายุ 15 ปี ก็ถูกนำไปกักตัวก่อนหน้าไม่กี่วันเช่นกัน กำนันจึงนำรถกระบะส่วนตัวเดินทางไปรับเด็กทั้ง 2 คน และเด็ก ๆ ได้อาสาขนกระเป๋าขึ้นรถดัวยตนเอง ช่วยเหลือตนเองดังที่เคยปฏิบัติจนเป็นความเคยชืน
ต่อมา ทางกำนันได้พาทั้งคู่มากักตัวและดูแล ณ โรงเรียนบ้านรักแผ่นดิน โดยให้อยู่ใกล้กับพี่ชาย และมีผู้นำชุมชนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำสถานที่กักกัน คอยดูแลการดำรงชีพตามมาตรการทางสาธารณสุขโดยเคร่งครัด จึงขอเรียนชี้แจงว่าข้อมูลตามที่ปรากฎเป็นข่าวเชิงลบนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และทางท้องถิ่นยังคงดูแลครอบครัวนี้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องต่อไป
……………………………….
ชาติณรงค์ ปัญญาฟู….
ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดเชียงราย…………………