เขื่อนสิริกิติ์ อุตรดิตถ์​แจงน้ำต้นทุนมีน้อย ขอให้ชะลอการทำนา ลดความเสียหายจากการเพาะปลูก

เขื่อนสิริกิติ์ อุตรดิตถ์​แจงน้ำต้นทุนมีน้อย ขอให้ชะลอการทำนา ลดความเสียหายจากการเพาะปลูก

เขื่อนสิริกิติ์ อุตรดิตถ์​แจงน้ำต้นทุนมีน้อย ขอให้ชะลอการทำนา ลดความเสียหายจากการเพาะปลูก

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาณ สันเขื่อนสิริกิติ์ นายบรรจง ศรีสอาด ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์-1 (ช.อขส-1) เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ปีนี้มีปริมาณน้อย ขอให้เกษตรกรติดตามประกาศจากส่วนราชการในพื้นที่และขอความร่วมมือชะลอการทำนาปรัง ลดความเสียหายจากการเพาะปลูก ในส่วน สถานการณ์น้ำเขื่อนสิริกิติ์ ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2564 มีปริมาณน้ำใช้งาน 4,311.07 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 45.33 มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,461.07 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 21.94 และสามารถรับน้ำได้อีก 5,198.93 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 54.67 เฉลี่ยมีน้ำไหลเข้าวันละ 12 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 138.07 เมตร รทก. เมื่อเปรียบเทียบระดับน้ำเหนือเขื่อนปีที่ผ่านมา (11 ตุลาคม 2563) ระดับน้ำ 145.83 ต่างกันอยู่ที่ 7.77 เมตร รทก. ซึ่งหากติดตามพายุจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าไม่ส่งผลให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด สำหรับภาพรวมของประมาณน้ำทั้ง 4 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวม 13,083 ล้าน ลบ.ม. เทียบกับปีที่แล้ว (ปี 2563) 11,921 ล้าน ลบ.ม. ปีนี้จึงมีปริมาณน้ำมากกว่าประมาณ 1,200 ล้าน ลบ.ม.

ช.อขส-1 กล่าวสรุปว่า ปีนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์น้อย สำหรับการระบายน้ำเฉลี่ยวันละ 2 – 3 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น การระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์เป็นไปเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ จึงขอฝากให้เกษตรกรใช้น้ำอย่างประหยัด ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำและประกาศจากโครงการชลประทานอุตรดิตถ์อย่างต่อเนื่องและขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอหรืองดทำนาปรัง เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการเพาะปลูก


ณัฐ​วัฒน์​ ราช​ประสิทธิ์​ ภาพ/ข่าว​อุตรดิตถ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม