พรรคประชาชาติเปิดเวทีรับฟัง “แม่เลี้ยงเดี่ยว-เด็กกำพร้า” ชูการศึกษา-กระจายอำนาจ แก้ปัญหายั่งยืน
วันเสาร์ที่ 14 พ.ค.65 ที่หอประชุมมูลนิธิมะทา อ.เมือง จ.ยะลา พรรคประชาชาติ นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส.เขตของพรรคทั้ง 5 เขตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันจัดงาน “เราคือพี่น้องกัน satu hati ประชาชาติไม่ทิ้งประชาชน” ที่มูลนิธิมะทา จ.ยะลา
กิจกรรมสำคัญคือร่วมรับฟังปัญหาของเด็กกำพร้าจากสถานการณ์ความไม่สงบ แม่เลี้ยงเดี่ยวที่สามีเสียชีวิตจากสถานการณ์ หรือถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำเพราะคดีความมั่นคง พร้อมทั้งมอบสิ่งของช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและมอบรองเท้านักเรียนให้เด็กๆ ทุกคน บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น อาทร
แนนำพรรคประชาชาติที่เข้าร่วมงาน นอกจาก นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง แล้ว ยังมี นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3 นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี เขต 4 นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา เขต 2 นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต 3 และ นายมูฮัมหมัดรุสดี เชคฮารูณ รองโฆษกพรรคประชาชาติ
@@ “วันนอร์” เล่าย้อนวัยเด็ก แนะ ”ขยัน-ตั้งใจเรียน” ทำชีวิตดีขึ้น
วันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมตอนหนึ่งว่า พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานว่า พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาจากอดัมและเอวา จนมีลูกหลานไปทั่วโลกกว่า 7,000 กว่าล้านคน และได้สร้างให้มีความแตกต่างหลากหลายทั้งฐานะ สีผิว เพศ เพื่อให้มนุษย์ได้ช่วยเหลือกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ได้สร้างความแตกต่างนี้เพื่อให้เราดูถูกกัน เปรียบเสมือนกับนิ้วมือทั้ง 10 ของเราที่มีความยาวไม่เท่ากัน เพื่อที่จะได้หยิบจับสิ่งของได้สะดวกกว่า และสร้างอวัยวะในร่างกายได้อย่างสมบูรณ์
เช่นเดียวกับมนุษย์เราบางคนมีฐานะ ดีบางคนมีฐานะยากจน เพื่อให้เราได้ช่วยเหลือกัน
“วันนี้รู้สึกระลึกถึงความหลัง เมื่อได้เห็นรองเท้านักเรียนที่จะมอบให้กับหนูๆในวันนี้ จำได้ว่าตอนเด็กก็ไม่มีรองเท้านักเรียนใส่ ตอนนั้นเรียนโรงเรียนประชาบาล ไปโรงเรียนไม่มีรองเท้า แต่จะใส่รองเท้าเฉพาะในวันที่ครูบังคับ ใครไม่ใส่รองเท้าให้ไปยืนหน้าเสาธง จึงเป็นเหตุผลที่ต้องไปขอพ่อแม่ให้ซื้อรองเท้า ทำให้มีรองเท้านักเรียนคู่แรกในชีวิต และรู้สึกรักรองเท้านั้นมาก เมื่อไปถึงโรงเรียนจะถอดรองเท้าใส่ไว้ในโต๊ะ จะไม่ใส่กลับบ้านเพราะกลัวเลอะ แต่จะใส่รองเท้าเฉพาะตอนเข้าแถว นี่คือสภาพเมื่อ 70 ปีที่แล้ว”
“ตัวผมเองก็ไม่ได้มีรองเท้าดีๆ ใส่ เราอยากมีเสื้อผ้าดีๆ รองเท้าดีๆ ใส่ และเรามีวันนี้ได้เพราะตอนเด็กเราตั้งไจเรียน พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้ว่า โชคของมนุษย์ไม่ได้มาจากพระเจ้าช่วยเหลือ แต่เราต้องช่วยตัวเองก่อน และพระเจ้าจะยกสถานะของเราให้ดีขึ้น เช่นวันนี้ ผมมีตำแหน่งเป็นผู้แทนราษฏรได้ เพราะผมขยันเรียน ตั้งแต่ชั้นประถมไม่เคยสอบได้ต่ำกว่าที่ 3”
@@ พรรคประชาชาติขอทำหน้าที่ดูแลประชาชน
“ถ้าเราเกิดมาเป็นคนจน นั่นไม่ใช่ความผิดของเรา แต่ถ้าเราตายในฐานะยากจนนั้น เราต้องถามตัวเอง เรามีเวลามากมายในการทำมาหากิน ถ้าเราขยันทำงาน พระเจ้าจะไม่ให้เราเสียชีวิตในฐานะยากจน แต่ถ้าเราพยายามขยันทำงานแล้วแต่ก็ยังจนอยู่ นั่นไม่ใช่ความผิดของเราแล้ว แต่เป็นความผิดของรัฐบาลที่ทำให้มีความเหลื่อมล้ำ ไม่ดูแลราคาพืชผลการเกษตร ไม่ดูแลราคายางพารา ไม่ดูแลชาวนา ไม่ดูแลแรงงาน เหล่านี้คือหน้าที่ของรัฐบาล”
“พรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองหนึ่ง กำเนิดที่นี่ เราถือว่าเรามีภาระหน้าที่กับประชาชน ประชาชาติคือประชาชน ประชาชาติต้องดูแลประชาชนทุกชาติพันธุ์ ดูแลให้มีความเหลื่อมล้ำน้อยที่สุด วันนี้พรรคประชาชาติมาร่วมกับคณะผู้จัดงาน จะแก้ความเหลื่อมล้ำที่พ่อแม่ผู้ปกครองที่ลำบาก บางคนมีแม่แต่ไม่มีพ่อ บางคนไม่มีทั้งพ่อแม่ ต้องอยู่กับญาติ พระผู้เป็นเจ้าบอกว่านี่คือภาระหน้าที่ของคนที่มีชีวิตอยู่ และเป็นหน้าที่ของพรรคประชาชาติซึ่งเป็นพรรคของเรา พรรคของประชาชน”
@@ ติงรัฐละเลยการศึกษา – ไม่ดูแลปอเนาะ ตาดีกา
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เล่าถึงการทำงานสมัยเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. และแสดงความกังวลต่อการเสียโอกาสทางการศึกษาของเด็กๆ ไปถึง 2 ปีในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ดีใจที่มีกิจกรรมที่ให้ความสำคัญด้านการศึกษา ยังจำได้ว่าตอนที่เข้ามาอยู่ ศอ.บต. มีปัญหาอยู่ 3 ประการที่เป็นปัญหาใหญ่ของพี้นที่ คือ 1.คนยากจน 2.คนเจ็บป่วย 3.คนไม่มีความรู้ ซึ่งทั้งสามข้อเป็นเรื่องที่จะต้องช่วยเหลือ แต่ถ้าจำเป็นที่จะต้องเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อน มีคำถามอยู่ว่าจะเลือกสิ่งใด ท่านประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดยะลา ท่านเป็นผู้ตอบว่าถ้าจะต้องเลือกก็จะเลือกข้อสาม คือแก้ปัญหาคนไม่มีความรู้ เพราะจะต้องทำให้คนมีความรู้ ก็คือเลือกเรื่องการศึกษาก่อน”
“ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 การศึกษาของประเทศได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจะเห็นว่าเมื่อเกิดโควิดระบาด สิ่งที่นายกฯประยุทธ์กับคณะได้เลือกปิดก่อนคืออะไร คำตอบคือเลือกปิดโรงเรียนหรือปิดการศึกษาก่อน หมายถึงเลือกปิดการหาความรู้ก่อน แล้วจึงปิดเศรษฐกิจต่างๆ จากนั้นจึงปิดประเทศ แต่พอจะเปิด นายกฯประยุทธ์ก็ไปเปิดเศรษฐกิจและเปิดประเทศก่อน แต่ไม่ยอมเปิดโรงเรียน ทำให้หยุดเรียนในระบบไป 2 ปี และเพิ่งจะมาเปิดโรงเรียนในวันที่ 17 พ.ค.นี้”
“สิ่งที่รัฐบาลทำมันย้อนแย้งกับความสำคัญ การทิ้งเวลาไป 2 ปีกับการปิดการศึกษา ปิดกั้นความรู้ ถือว่าเสียหายมาก มันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ซึ่งในประเทศต่างๆ เขาไม่ทำแบบประเทศไทย เพราะว่าเขาไม่นิยมความโง่เขลา การจะชนะทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องชนะด้วยความรู้ ทุกสิ่งที่สำคัญในโลกไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความรู้ มนุษย์เกิดมามีสมองกับสติปัญญา ดังนั้นเพื่อต้องการให้มนุษย์ทุกคนได้ศึกษาเรียนรู้ การที่ประเทศไทยเราไปปิดการศึกษาเป็นเวลา 2 ปี ทำให้เราเสียโอกาส ถึงแม้ว่าจะมีการเรียนออนไลน์ก็ตาม แต่สำหรับพี่น้องในพื้นที่ค่อนข้างทำได้อย่างยากลำบาก ขาดแคลนอุปกรณ์มือถือ คอมพิวเตอร์”
“รัฐธรรมนูญฉบับนี้บอกเลยว่าถ้าใครที่ยากไร้ให้รัฐมีกองทุนให้เรียนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา แต่พอมาดูกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา มีงบประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท แต่กลับให้เฉพาะกับโรงเรียนใน สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) หรือโรงเรียนของรัฐบาล ในขณะที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผู้เรียน ผู้ปกครองนิยมเรียนประมาณ 600 โรงเรียน สถาบันปอเนาะ โรงเรียนตาดีกา ซึ่งเป็นอุดมการณ์และจิตวิญญาณและเป็นสถานที่ให้ความรู้ ปรากฏว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาช่วยเหลือแต่โรงเรียนของรัฐ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเท่านั้น ทั้งที่ให้ฟรีอยู่แล้ว ช่วยเหลือพิเศษผู้ยากจนอีกคนละ 3,000 บาท ส่วนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาและโรงเรียนเอกชนอื่นๆ ที่มีเด็กอยากจนยิ่งกว่า กลับไม่ได้ให้ มันเป็นความเหลื่อมล้ำในกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ซึ่งพวกเราเข้าไม่ถึง”
@@ ใช้การศึกษายกระดับคุณภาพชีวิต
พ.ต.อ.ทวี ยังเน้นย้ำเรื่องความสำคัญของการศึกษาในการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคน
”การให้การศึกษาเป็นการเปลี่ยนสถานภาพคนให้ดีขึ้น การเปลี่ยนคนต้องเปลี่ยนด้วยความรู้ อาชีพต่างๆ จะรับผู้มีความรู้เข้าทำงาน การเปลี่ยนแปลงที่ดีไม่ได้เปลี่ยนด้วยอาวุธหรือด้วยกำลัง ผมอยากจะกราบเรียนว่าในส่วนของพรรคประชาชาติเป็นพรรคที่ก่อเกิดจากการศึกษา เราเชื่อมั่นว่ามนุษย์ทุกคนต้องมีคุณค่าเท่าเทียม ต้องมีศักดิ์ศรีเท่ากัน มนุษย์ทุกคนจะต้องมีความสำคัญ ดังนั้นการศึกษา การให้ความรู้ จะต้องเป็นการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ ถือเป็นหน้าที่ของคนในพรรค เป็นหน้าที่ของสังคมที่ต้องส่งเสริมให้เยาวชนมีการศึกษาที่ดี เพราะเราจะส่งต่ออนาคตของคนที่มีความรู้ ไม่ใช่ส่งต่ออนาคตของความยากจนซ้ำแล้วซ้ำอีก”
@@ รัฐรวมศูนย์ งบกระจุก ไม่กระจายอำนาจ
เลขาธิการพรรคประชาชาติ ยังพูดถึงการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ทำให้ประเทศไม่มีอนาคต
การเมืองในปัจจุบัน ผมมองไม่เห็นอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงบประมาณที่ไม่ยอมกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น งบประมาณของประเทศที่จะเข้าสภาก็ยังเหมือนเดิม งบเบิกจ่ายในส่วนกลางเป็นรัฐรวมศูนย์อำนาจนิยมประมาณ 97% ของ 3.3 ล้านล้านบาท ส่วนงบประมาณที่ลงท้องถิ่นมีเพียงแค่ 3% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ทั้งที่ท้องถิ่นเป็นคนรู้ปัญหาของประชาชนอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่เป็นเรื่องสำคัญ
“การเปิดภาคการศึกษาที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 17 พ.ค.นี้ เป็นการเปิดท่ามกลางสภาพทางเศรษฐกิจที่ทุกคนมีความยากลำบาก รัฐบาลสร้างเงื่อนไขข้อกำหนดในการเปิดเรียนไว้มาก สร้างข้อจำกัดมาก ทุกข้อกำหนดต้องใช้เงินทั้งนั้น แต่ไม่ส่งเงินงบประมาณมาให้กับครอบครัวและผู้เรียน ทำให้มีความยากลำบากยิ่งขึ้น นี่คือปัญหา”
“วันนี้ผมจึงอยากที่จะมารับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และทุกท่านในที่นี้ที่ส่วนใหญ่สามีต้องขังอยู่ในเรือนจำ เป็นแม่เลี้ยงเดี๋ยว ต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ด้วย ทราบว่ามีความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ฉะนั้นในส่วนของพรรคประชาชาติเราต้องเอาปัญหาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนไปพูดในระดับประเทศ และจะต้องเป็นตัวแทนในการแก้ปัญหาต่อไป”
ในช่วงท้ายของกิจกรรม มีการเปิดเวทีรับฟังปัญหาของกลุ่มสตรี ในประเด็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ปัญหาของสามีที่ไม่ได้รับการประกันตัว ต้องอยู่ในเรือนจำ ปัญหาการเยี่ยมผู้ต้องขังที่ต้องมีค่าใช้จ่ายจากเงื่อนไขที่กำหนดในการตรวจโรค ต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งที่ฐานะยากไร้ ปัญหาการเข้าถึงความยุติธรรมที่ยากลำบาก และปัญหาขาดการส่งเสริมอาชีพ
ปิดท้ายมีการมอบรองเท้าให้กลุ่มน้องๆ เยาวชน บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข