นราธิวาส-บรรยากาศเปิดเรียนแบบ On-site วันแรกของนราธิวาส พร้อมมาตรการรับมือโควิด ตามกระทรวงศึกษาธิการและทาง ศบค. กำหนด เน้นย้ำ 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม 7 มาตรการเข้ม
วันนี้ 17 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การเปิดเรียนวันแรกที่โรงเรียนนราสิกขาลัย ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เป็นโรงเรียนที่ทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีจำนวนนักเรียน 1,089 คนและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 92 คน เปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เป็นวันแรกซึ่งเป็นการเปิดเรียนแบบ On-Site เต็มรูปแบบ 100% ทุกระดับชั้น ภายหลังโควิด-19 ทำให้โรงเรียนต้องสลับการเรียนแบบ On-Site และ Online ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยทางโรงเรียนนราสิกขาลัยได้มีการจัดเตรียมมาตรการป้องกันโควิด-19 ไว้อย่างเคร่งครัดโดยให้นักเรียนวัดอุณหภูมิก่อนเข้าโรงเรียนพร้อมกับทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และยังมีการจัดวางมาตรกรอื่นๆตามกระทรวงศึกษาธิการและทาง ศบค. กำหนดอย่างเคร่งครัด
ด้านนานสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เผยว่า วันนี้เป็นการเปิดภาคเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ถือเป็นการเปิดเรียนวันแรกของทุกโรงเรียนในจังหวัดนราธิวาสในส่วนของจังหวัดนราธิวาสนั้นมีมาตรการ
3T 1 V คือ T : Thai Stop COVID Plus (TSC+) : โรงเรียนต้องประเมินตนเอง เตรียมความพร้อม ก่อนเปิดเรียน
T : Thai Save Thai (TST) : นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ
T : Test : เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม ตรวจคัดกรอง เช่น ATK เมื่อมีความเสี่ยง หรือ เมื่อมีอาการ
V : Vaccine : ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และเด็ก 5-17 ปี ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ และ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก
ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดแออัด ทำความสะอาด
ซึ่งจากการประเมินนั้นทุกโรงเรียนผ่านทั้ง 20 ข้อ และการประเมินคุณครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แต่ในกรณีที่มีกลุ่มเสี่ยงเกิดขึ้นเรามีมาตรการเตรียมความพร้อมในการตรวจ ATK รวมถึงการรณรงค์การฉีดวัคซีนทั้งในส่วนของบุคลากรและนักเรียนทุกกลุ่มและมาตรการที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมคือ ได้เน้นในเรื่องของ 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม 7 มาตรการเข้ม โดยทางสถานศึกษาได้เน้นย้ำให้นักเรียนได้ปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด และต้องมีแผนเผชิญเหตุที่จะต้องมีการปรับสถานที่ห้องเรียนให้ได้ตามขนาดมาตรฐาน ซึ่งคาดหวังว่าเราจะเป็นโรงเรียนที่ปลอด โควิด-19
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าสำหรับมาตรการคุมเข้มนั้น ทุกฝ่ายมีการดูแลเป็นอย่างดี โดยมีส่วนร่วมจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในช่วงเปิดเทอมแต่ละพื้นที่มีแผนรักษาความปลอดภัยของครู มีการจัดเส้นทาง จัดระบบ รักษาความปลอดภัย ทั้งในส่วนของคณะครูตามเส้นทาง และการลาดตระเวนเส้นทางที่จำเป็นต้องผ่าน มีการแวะเวียนไปดูแลในขณะที่ทำการเรียนการสอนภายในโรงเรียน รวมถึงการตั้งจุดตรวจและที่สำคัญคือขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้ข้อมูลข่าวสารกับเจ้าหน้าที่ด้วย
ด้าน ดร.ชาร์รีฟท์ สือนิ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดนราธิวาสมีสถานศึกษาในทุกสังกัดจำนวน 1,504 แห่ง ซึ่งในส่วนของสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานประกอบไปด้วย สพฐ. เขต 1 จำนวน 148 แห่ง สพฐ.เขต 2 จำนวน 117 แห่ง และ สพฐ.เขต 3 จำนวน 75 แห่ง ผ่านการประเมิน 100% และในระดับมัธยมศึกษาจำนวน 17 แห่ง ซึ่งโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 357 แห่งมีการประเมินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในส่วนของโรงเรียนสำนักงานการศึกษาเอกชนซึ่งจะแยกเป็น 2 ส่วนประกอบด้วยโรงเรียนเอกชนในระบบจำนวน 100 แห่ง ได้มีการประเมินครบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และโรงเรียนเอกชนนอกระบบซึ่งจะมีทั้งหมด 706 แห่ง ประเมินยังไม่หมดจึงขอฝากหน่วยงานต้นสังกัด ให้มีการประเมินเพื่อที่จะเปิดเรียนแบบ On-site ให้เร็วที่สุด
ขณะที่ น.ส.อรัญยา บุญเลิศ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนนาราสิกขาลัย เผยว่า วันนี้เป็น วันเปิดเทอมวันแรกรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มาเจอผู้อำนวยการ เจออาจารย์ รวมถึงเพื่อนๆ หลังจากที่มีการเรียนแบบออนไลน์เกือบสองปีที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่าการเรียนแบบออนไลน์นั้น พบปัญหาหลายอย่าง อาทิเช่นระบบล่มบ้าง ซึ่งในวันนี้การเรียนแบบออนไซด์ถึงแม้ว่าเราจะต้องอยู่ภายใต้มาตรการ อย่างน้อยก็ยังได้เจออาจารย์ได้เจอกับเพื่อนๆได้เรียนตัวต่อตัวมีปัญหาก็สามารถปรึกษาได้ และอีกอย่างเพื่อนเพื่อนทั้งโรงเรียนก็ฉีดวัคซีนครบสองเข็มครบทุกคน และมั่นใจในมาตรการของโรงเรียนด้วย
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน