แก๊งเงินกู้โหดหลายคนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จทะยอยขึ้นโรงพักรับทราบข้อกล่าวหาหนัก ร้องขอนักข่าวยุตินำเสนอข่าวกลัวหมดหนทางหากิน

แก๊งเงินกู้โหดหลายคนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จทะยอยขึ้นโรงพักรับทราบข้อกล่าวหาหนัก ร้องขอนักข่าวยุตินำเสนอข่าวกลัวหมดหนทางหากิน

แก๊งเงินกู้โหดหลายคนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จทะยอยขึ้นโรงพักรับทราบข้อกล่าวหาหนัก ร้องขอนักข่าวยุตินำเสนอข่าวกลัวหมดหนทางหากิน

วันที่ 31 กรกฎาคม 2565 ที่ สภ.เมืองลำพูน แก๊งทวงหนี้โหดเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนชายเสื้อเหลืองอีกแก๊งที่ขว้างบ้านปาตู้ไปรษณีย์ลูกหนีที่ถนนจามเทวี อาทิตย์ก่อน เดินคอตกมารับทราบข้อกล่าวหาหลังถูกออกหมายจับ อ้างไปทำธุระต่างจังหวัดเลยมาช้า ขณะที่ชาวบ้านชื่นชมชุดสืบสวนเร่งติดตามแก๊งเงินกู้โหดมาดำเนินคดีได้รวดเร็ว พร้อมปรามห้ามก่อเหตุทำร้ายลูกหนี้อีกเด็ดขาด ขณะที่แก๊งเงินกู้ติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ขอร้องนักข่าวให้ยุติการนำเสนอข่าว อ้างเสียงอ่อยกลัวปล่อยเงินกู้ไม่ได้ หวั่นหมดช่องหากิน แต่ยังเหิมไม่หยุดขู่จะแจ้งความเอาผิดลุงวัย 70 ปี ทำร้ายร่างกายอีกด้วย

ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำพูน พนักงานสอบสวนได้ แจ้ง 3 ข้อหาแก๊งเงินกู้รุมกระทืบลุงวัย 70 หลังทวงหนี้กับภรรยาลุงที่บ้านป่าขาม ต.เหมืองง่า อ.เมือง แล้วไม่ได้ ขณะที่ ฝ่ายแก๊งทวงหนี้เตรียมแจ้งความลุงกับลุกเขยข้อหาทำร้ายร่างกาย อ้างถูกลุงชกก่อนจึงป้องกันตัวขณะที่ลูกเขย พาชาวบ้านมารุมทำร้ายตนกับเพื่อน

แก๊งทวงหนี้โหดคนรุมกระทืบลุงเรือง นามสมมุติ วัย 70 ถึงในบ้านบาดเจ็บปากแตกเย็บ 3 เข็ม ตาซ้ายบวมปูด ลำตัวฟกช้ำและเป็นแผลตามแขนขาหลายจุด หลังไปทวงหนี้ป้านิตย์ นามมสมมุติ ภรรยา ถึงบ้านป่าขาม ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน แต่ไม่พบ จึงเขย่าประตูบ้านก่อนที่ลุงจะเปิดประตูบ้านออกมาเกิดทะเลาะวิวาทถูกชกจนล้มก่อนและถูกรุมกระทืบบาดเจ็บ ก่อนที่แก๊งทวงหนี้จะย้อนกลับมาเก็บเงินกับลูกหนี้อรกครั้ง และมีเรื่องทะเลาะวิวาท กับลูกเขยลุงเรือง ที่กลับจากทำงานทำให้ตาข้างซ้ายลุกเขยลุงฯถูกชกบวมปูด หลังจากนั้นผู้เสียหายได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ลำพูน เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งทวงหนี้กลุ่มดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 18.00 น.

ล่าสุด ลุงเรือง นามสสมุติ พร้อมด้วยป้านิตย์ นามสมมุติ ภรรยา พร้อมด้วย นายเอก นามสมมุติ ลูกเขย ได้เข้าพบ พ.ต.ต.บวรรชต มายะลา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตนกับภรรยายังอยู่ในอาการหวาดกลัวอยู่หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นและไปขออาศัยอยู่กับญาติชั่วคราวก่อนเนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัย อย่างไรก็ตามตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดกับแก๊งทวงหนี้กลุ่มดังกล่าวยืนยันไม่มีการยอมความ

ขณะเดียวกันนายแบ๊งค์ นามสมมุติ อายุ 29 ปี กับนายน็อต นามสมมุติ อายุ 28 ปี คู่กรณีได้เดินทางมาให้ปากคำกับพ.ต.ต.บวรรชต มายะลา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ซึ่งทั้งสองให้การว่าตนทั้งสองเดินติดต่อไปหาป้านิตย์ลูกหนี้ทราบว่าป้าไปช่วยงานศพยังไม่กลับมาเวลาผ่านไปตนจึงโทรศัพท์ติดต่อไปอีกครั้งไม่รับโทรศัพท์ จึงตัดสินใจไปหาที่บ้านและยืนเรีกอยู่หน้าบ้านขณะนั้นลุงได้เปิดประตูบ้านมาไม่รู้ว่าอารมณ์เสียมาจากไหนง้างหมัดชกถูกนายแบ๊งค์ ทำให้ทั้งสองคนรุมชกต่อยลุงจนได้รับบาดเจ็บ

ด้านนายน็อต เปิดเผยว่าหลังมีเรื่องกับลุงเรืองตน กับนายแบ๊งค์ ได้ขี่รถออกไปข้างนอกก่อนที่จะกลับมาเก็บเงินกับป้านิตย์ ที่บ้านอีกครั้ง กลับพบลูกสาวและลูกเขยของลุงเรือง ยืนรอตนอยู่ ขณะนั้นตนยังไม่ได้จอดรถด้วยซ้ำลูกเขยลุงฯได้เข้ามาชกนายแบ๊งค์ ทำให้รถล้มลงจนเกิดการชกต่อยกันชุลมุนไปหมด ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ถือทั้งมีดและเสียมเดินเข้ามาพยายามเข้ามาช่วยลูกเขยลุงฯและเกอการชุลมุนกันรอบสอง ทำให้ตนทั้งสองได้รับบาดเจ็บฟกช้ำไปทั้งตัว เมื่อเห็นท่าไม่ดี ตนและเพื่อนจึงวิ่งหนีตั้งหลักก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาระงับเหตุ

นายแบ๊งค์กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ป้านิตย์ ได้ขอกู้เงินจากพวกตนไป 5 พันบาท ซึ่งผ่อนจ่ายวันล่ะ 250 บาท โดยลุงเรืองเป็นคนค้ำประกันให้ภรรยาเพื่อนำไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้อีกกลุ่มหนึ่ง ทำให้ลุงกับป้ารู้จักตนทั้งสองคนเป็นอย่างดี ซึ่งผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร แต่วันเกิดเหตุตนทั้งสองได้ไปเคาะประตูบ้านเรียกป้าปกติ แต่พอลุงเปิดประตูบ้านมากลับง้างมือชกตนก่อนตนกับเพื่อนจึงชกกลับไปจึงเกิดการต่อสู้กัน ซึ่งเรื่องนี้ตนกับเพื่อนยืนยันว่าถูกทำร้ายก่อนและจะแจ้งความเอาผิดกับลุงเรือง และลูกเขยอย่างแน่นอน

ขณะที่ พ.ต.ต.บวรรชต มายะลา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ได้สอบปากคำทั้งสองฝ่ายเสร็จ เบื้องต้นได้แจ้ง 3 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ , บุกรุกเคหะสถาณยามวิกาล และทวงหนี้นอกเวลาตามที่กฎหมายกำหนดกับนายแบ๊งค์ฯ กับนายน็อตฯ ส่วนกรณีที่ทั้งสองจะแจ้งความลุงเรือง กับนายเอกลูกเขยก็สามารถทำได้

ขณะที่ชาวบ้านรวมถึงลูกหนี้ ต่างก็พากันชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำพูน ที่สนใจคดีเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน จนเป็นที่พอใจ ส่วนคนค้ำเงินกู้ถูกทำร้ายโดนเปลือกทุเรียนฟาดหน้าที่แท้เป้นเรื่อวโอละพ่อ กลายเป็นคนสติไม่สมประกอบเดินทางมาไหว้พระอากาศร้อนเจอหน้าป้าคนค้ำเงินกู้เลยโดดทำร้ายก่อนหลบหนีไป และทางญาติได้เห็นข่าวพร้อมกับเจ้าหน้าที่ติดต่อไปในฐานะเจ้าของรถคันที่พาหลบหนีทราบเรื่อง จึงพาเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนและได้กระเช้ามาขอโทษกันแล้ว ส่วนป้าคนค้ำเงินกู้ยังแคลงใจทำไมประจวบเหมาะกับเจ้าหนี้ขู่เพียงข้ามคืนก็โดนทำร้าย แต่อย่างไรก็ตามได้ข้อยุติทางด้านคดีกันทั้งสองฝ่ายแล้ว รวมถึงคดีแก๊งเงินกู้โหดรายอื่นๆที่ก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายก็ถูกดำเนินคดีหมดทุกคนแล้ว และอย่างไรก็ตามยังมีแก๊งเงินกู้อีกหลายรายยังคงอาระวาดข่มขู่ลูกหนี้อย่างต่อเนื่องทั้งเขตอำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอป่าซาง ที่ร้องเรียนผู้สื่อข่าวให้ตรวจสอบอีกหลายราย

ล่าสุดวันนี้มีการติดต่อขอร้องผู้สื่อข่าวให้ยุติการนำเสนอข่าว แต่ทางผู้สื่อข่าวบอกว่าเป็นหน้าที่ของผู้สื่อข่าว ถ้าชาวบ้านเดือดร้อนก็ต้องทำหน้าที่สะท้อนปัญหา และหากยังไม่หยุดพฤติกรรมถ่อยๆแบบนี้อีก ก็จะยังคงทำหน้าที่นำเสนอข่าวเพื่อช่วยชาวบ้านต่อไป โดยไม่สนใจว่ากลุ่มนายทุนเงินกู้เหล่านี้จะเป็นคนมีสีหรือมีอิทธิพล หรือมีอำนาจยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม เพราะมันคือการทำหน้าที่เพื่อปกป้องประชาชน

ทีมข่าวเฉพาะกิจรายงาน

ร้องทุกข์ ร้องเรียน