โครงการ เส้นทางสายไหม อย่าให้เงียบหายไปเหมือน…
โครงการ เส้นทางสายไหม หรือ Silk Road กำลังจะเหมือนกับอีกหลายโครงการ ที่เริ่มต้นในสมัยผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่ง พอเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดใหม่ โครงการนั้นก็จะเชื่องช้า หรือไม่ก็แป้กไปเลย (ความหมาย แป้ก = นิ่งอยู่กับที่ไม่เจริญก้าวหน้า)
ขอเริ่มต้น…ที่มา-ที่ไป โครงการ เส้นทางสายไหม (Silk Road).. มาจากกลุ่มสื่อมวลชนอาวุโสที่อยู่ในชมรมนักข่าวพลเมืองอาเซียนจังหวัดพังงา นำโดย อ.ศักดิ์ชัย สุคนธชาติ ประธานกลุ่มฯ ประสานความร่วมมือกับ อ.สมหมาย ปิ่นพุทธศิลป์ อดีตข้าราชการที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณ และ ร.อ.บุญฤทธิ์ ฉายสุวรรณ ผอ.กองโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร รวมถึงข้าราชการในสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช ช่วยกันสืบค้นหาข้อมูลหลักฐาน ประวัติศาสตร์ของเส้นทางสายไหม.. จนได้หลักฐานชี้ชัดว่า เส้นทางสายไหม..สายนี้ มีประวัติศาสตร์มากกว่า 2,000 ปี และมีความเกี่ยวข้องกับจังหวัดพังงาเชื่อมโยงไปถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้นำโครงการฯเสนอต่อท่านผู้ว่าฯสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาสมัยนั้น เมื่อปี 2561 รวมทั้งได้ขับเคลื่อนต่อด้วยการจัดงานเสวนาและพิธีเปิดโครงการ เส้นทางสายไหม..ขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2561 มีหลายภาคส่วนเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะหอการค้าจังหวัดพังงา คุณสมเกียรติ ฯ ประธานหอการค้าฯสมัยนั้น ได้แสดงความเห็นและเห็นด้วยกับโครงการเส้นทางสายไหม..อย่างเติมที่ และหลังจากการเสวนา ท่านผู้ว่าฯสิทธิชัยฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานติดตามหาร่องรอยเส้นทางสายไหมในพื้นที่จังหวัดพังงา โดยมี ท่านรอง ชาญศักดิ์ ถวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาสมัยนั้น เป็นประธานคณะทำงาน
ในวันแรกของการติดตามหาร่องรอยประวัติศาสตร์ เส้นทางสายไหม ในจังหวัดพังงา ท่านผู้ว่าฯสิทธิชัย ศักดา ได้นำทีมลงพื้นที่สำรวจด้วยตนเอง(ตามภาพ) จากนั้น ท่านรองฯชาญศักดิ์ ถวิล ได้นำทีมดำเนินงานต่อ โดยใช้เวลา 2-3 วัน การติดตามหาร่องรอยประวัติศาสตร์ในพื้นที่จริง เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็ได้หลักฐานต่าง ๆ มามากมาย ยืนยันตามข้อมูลที่กลุ่มสื่อมวลชนอาวุโส ชมรมนักข่าวพลเมืองอาเซียนจังหวดพังงา นำเสนอต่อท่านผู้ว่าสิทธิชัยฯ
ผลประโยชน์ที่จังหวัดพังงาและประเทศชาติจะได้รับจากโครงการ เส้นทางสายไหม มีมากมายมหาศาล ท่านผู้ว่าฯสิทธิชัย ศักดา น่าจะการันตีได้ ดูจากการที่ท่านผู้ว่าฯได้ทุมเทลงพื้นที่ติดตามหาร่องรอยด้วยตนเอง ที่อยากจะบอกกล่าวก็คือ..จะครบ 4 ปีแล้ว โครงการ เส้นทางสายไหม ทำทีทำท่าจะเหมือนกับโครงการหอชมทิวทัศน์เฉลิมพระเกรียติฯ จึงไม่อยากให้เงียบหายและซ้ำรอยเหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งอยากจะเชิญชวนพวกเราเข้ามาร่วมด้วยกัน อย่าลืมว่า..พวกเราต้องอยู่จังหวัดพังงาไปตลอดชีวิต แต่พวกท่านมาแล้วก็ไป นะครับ…..เขยพังงา