ศาลเยาวชน จ.กาญจน์ พิพากษา หญิงสาวคนสนิทศิลปินแห่งชาติชื่อดังชลธี ธารทอง ให้ชดใช้ค่าเสียหาย หลังครูปุ้ม ภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 3 ล้านบาท แถมจ่อฟ้องพิธีกร เพิ่ม
วันนี้ 30 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลเยาวชนจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ยชพ 190/2562 กรณีนางศศิวิมล ทองมา หรือครูปุ้ม อายุ 53 ปี ฟ้องแพ่ง เรียกค่าทดแทน จาก น.ส.เกตุ (นามสมมติ) เลขาสาวคนสนิทของนายนายสมนึก ทองมา หรือครูชลธี ธารทอง นักร้องนักแต่งเพลงและศิลปินแห่งชาติชื่อดัง เป็นเงินจำนวน 3 ล้านบาท ก่อนถึงเวลานัดหมายคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเดินทางมาที่ศาลกันอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยการอ่านคำพิพากษาใช้เวลาไม่นานนักจึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ นางศศิวิมล หรือครูปุ้ม เปิดเผยภายหลังว่า การเดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่รู้ว่าศาลคิดอย่างไรเกี่ยวกับคดี ซึ่งครั้งนี้เป็นการขึ้นศาลครั้งแรกที่เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ และเราก็ไม่รู้ว่าเราต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง แต่เมื่อได้ฟังคำพิพากษาเป็นข้อๆๆป ก็ปรากฏว่าศาลเชื่อในสิ่งที่เรายื่นฟ้องไป
ซึ่งผลของคำพิพากษา ปรากฏว่าหญิงสาวคนสนิทของครูชลธี ธารทอง เป็นไปตามที่เราฟ้อง และศาลได้ตัดสินให้เขาจ่ายค่าทดแทนให้ครูปุ้ม ส่วนจำนวนเงินนั้นขออนุญาตปิดเอาไว้ก่อน และจากการได้เจอหน้าฝ่ายตรงข้าม เขามีสีหน้าที่เรียบเฉย ซึ่งตัวครูปุ้มเองก็เริ่มรู้สึกสงสารเขา เพราะไม่อยากให้ผู้หญิงทุกคนมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้
แต่พี่ปุ้มคิดว่าคดีของพี่ปุ้ม เป็นคดีที่เป็นแบบอย่างให้กับลูกผู้หญิงทุกคนได้ เพราะจะได้รู้ว่าคุณจะทำอะไรก็แล้วแต่ คุณควรจะรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ยิ่งกรณีของพี่ด้วยแล้ว ถามว่า คุณไปอยู่กับสามีคนอื่นแล้วคุณไปเล่น โซเชียลติ๊กต๊อก ไลฟ์สดให้คนเห็นว่าไปไหนมาไหนไป ด้วยกัน อีกทั้งรูปภาพที่นำไปเป็นโปร์ไฟล์หน้าปกเฟซบุ๊ก รวมทั้งไลน์ ก็ ถ่ายคู่กัน
ซึ่งคนในวงการ ก็เกิดความสงสัยว่าทำไม คนในภาพไม่ใช่ครูปุ้ม ที่ผ่านมาพี่ปุ้ม ได้กล่าวตักเตือนเขามาโดยตลอด เตือนตั้งแต่ยังไม่มีการฟ้องด้วยซ้ำ แต่มาถึงวันนี้ ทุกอย่างมันก็สายไปแล้ว ซึ่งก็อยากจะบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นครูชลธีหรือเลขาคนสนิทให้หยุด ต่อไปนี้ครูปุ้มบอกได้เลยว่าครูปุ้มจะขอลุยขอเล่นบทโหดบ้าง เพราะมันไม่ให้เกียรติกัน
และอีกอย่างหนึ่งครูปุ้มเองต้องการรักษาชื่อเสียงของครูชลธี ตอนนี้ครูชลธีเสียหายมากแล้ว อย่าให้ใครต้องมาทำลายชื่อเสียงของครูชลธีอีกเลย เพราะครูชลจะอยู่ได้อีกสักกี่ปี และขอฝากบอกไปถึงครูชลธีด้วยว่า ตอนนี้ลูกชายคนโตของครูชลธีป่วยหนักมานานหลายวันแล้ว ทำไมครูไม่โทรไปหาลูกบ้าง เขาเป็นลูกของครู ไม่ใช่ลูกของปุ้ม ที่สำคัญลูกชายคนโตของครูชลธี จะต้องทำการผ่าตัด และต้องใช้เงินเป็นแสน ถามว่าพี่ปุ้มจะนิ่งดูดายหรือไม่ ซึ่งครูปุ้มทำไม่ได้ ครูปุ้มจะต้องช่วยเขา ต้องเข้าไปดูแลลูกชายคนโตของครูชลธี อย่างเต็มที่
และอยากฝากไปถึงคุณเลขา อย่าทำตัวควบคุม ครูชลธีทุกอย่างทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะเรื่องของโทรศัพท์ ว่าทำไมเวลาคนโทรไป ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ส่วนตัวของครูชล รวมทั้งเบอร์ งาน ทำไมคุณต้องรับสายเองทั้งหมด ซึ่งเขาได้อัดเสียงไว้หมดแล้ว โทรทุกครั้งคุณก็จะบอกว่าครูชลธีไม่ว่างมันใช่ไหม เพราะเขาเป็นพ่อลูกกัน เขามีสายสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูกกัน คุณไม่เคยมีลูก ถ้าคุณเคยมีลูกคุณจะรู้ว่าความสัมพันธ์ของพ่อลูกเขาเป็นอย่างไร
ฉะนั้นต่อไปนี้พี่ปุ้มเองนี่แหละ จะตามไปหาครูชลธีถึงที่บ้านด้วยตนเอง และหลังจากนี้จะเล่นกันจริงๆแล้ว เพราะการฟ้องผู้หญิงที่มาสนิทกับสามีเรา หากเจอหลักฐานเพิ่มอีกพี่ปุ้มก็สามารถฟ้องได้ตลอด ที่ฟ้องไม่ใช้เพราะเป็นความหึงหวง แต่ที่ฟ้องเป็นเพราะต้องการให้หยุด และอยากให้เขาได้สำนึก ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร บ้านเมืองมีกฎหมายมีขื่อมีแป ไม่ใช่คุณอยากจะทำอะไรก็ทำ หรือคุณคิดว่าทะเบียนสมรสไม่มีความหมายเลยหรือ
ถามว่าน่าอายไหมเพราะครูปุ้มยังอยู่ทนโท่ มีทะเบียนสมรส แต่คุณไปอยู่ด้วยกันมันใช่เรื่องไหม ครูปุ้มอยากจะบอกครูชลธีว่า ขอให้กลับมาคิดใหม่อย่าทำอะไรเกินเลยไป ซึ่งครูปุ้มเองเสียดายผลงานเพลงของครูชลธีมาก แล้วก็อยากจะบอกครูชลธีอีกเรื่องหนึ่งว่า การที่ครูชลธี ธารทอง ไปเที่ยวฟ้องคนโน้นคนนี้ขอให้หยุดเสียเถอะ อยากจะถามว่าครูชลธี ทำไปเพื่ออะไร เงินที่ครูมีอยู่ก็เหลือใช้ จึงอยากให้ครูหยุด
การที่ครูปุ้มออกมาพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าเป็นปฏิปักษ์ เพราะครูปุ้มรักครูชลธี ธารทอง ครูปุ้มเป็นห่วงครูชลธี แล้วลูกๆทั้งสองก็เป็นห่วงครูทุกคน ซึ่งบอกได้เลยว่าถ้าหากครูปุ้มยอมหย่า เชื่อว่าครูชล จะต้องจดทะเบียนสมรสใหม่แน่นอน เมื่อครูชลธีจดทะเบียนใหม่ เชื่อเถอะว่าครูชลจะต้องหมดตัวแน่
นางศศิวิมล หรือครูปุ้ม เปิดเผยว่า สำหรับคำพิพากษาของศาลเยาวชนในวันนี้ศาลท่าน ได้สั่งให้เลขา คนสนิทของทรูชลธี จ่ายค่าทดแทนให้ครูปุ้มจำนวนหนึ่ง โดย ต้อง จ่ายดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันฟ้อง แต่ครูปุ้มเชื่อว่าจะต้องมีการอุทธรณ์ แต่อย่างไรก็ตามก่อนอื่น ครูปุ้มต้องขอขอบคุณศาลเยาวชนจังหวัดกาญจนบุรีที่เมตตาครูปุ้มและครอบครัวเรา และครูปุ้มขอยืนยันว่า ครูปุ้มจะไม่มีวันยอมหย่าจะอยู่อย่างนี้และจะรักษาทรัพย์สมบัติไว้ให้กับครูชลธี และลูกๆ ทั้งสองของเขาต่อไป แต่เท่าที่ทราบ ตอนนี้ครูชล หมดเงินไปเยอะแล้ว จากที่เคยมีเงินเก็บไว้เป็น 10 ล้านบาท แต่ตอนนี้เหลือไม่กี่ล้านบาทแล้ว
ซึ่งอยากจะฝากถึงลูกผู้หญิงทุกคนที่เจอกรณีแบบเดียวกันกับครูปุ้มว่า ที่ครูปุ้มต่อสู้และดิ้นรนตรงนี้ก็เพื่อให้เป็นกรณีศึกษากับผู้หญิงทุกคน ผู้หญิงทุกคนเวลาแต่งงานทำอะไรก็แล้วแต่ อย่าเพิ่งไปไว้ใจผู้ชาย แต่เราจะต้องไม่หวงแหนหรือหึงจนเกินไป
ทุกอย่างที่มีจะต้องเก็บเอาไว้เป็นของเรา อย่าไปเชื่อใจเขาและอย่าไปไว้ใจเขาและหากมีโอกาส ให้เก็บภาพ เก็บ คลิปเสียงเอาไว้ เพราะอะไรก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ดูตัวอย่างจากครูปุ้มที่อยู่กินกับครูชลธี ธารทอง มาเป็นเวลานานถึง 30 ปี ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสเกิดเรื่องแบบนี้ และเรื่องเงินทองก็เช่นกัน ลูกผู้หญิงถ้ามีโอกาสก็อย่านำไปเก็บเอาไว้ที่กระเป๋าของผู้ชาย เราจะต้องเก็บเอาไว้ในกระเป๋าของเราเอง
และลูกผู้หญิงทุกคนขอให้ดูคดีครูปุ้มเป็นตัวอย่าง อย่าไปยอมหย่า ซึ่งหลายคนถามครูปุ้มว่าทำไมไม่หย่า ที่ครูไม่หย่าเพราะครูปุ้มมีเหตุผล ทั้งเกียรติและศักดิ์ศรีของเรา เพราะครูปุ้มไม่ได้อยู่กับครูชลจนมาแค่ 1 หรือ 2 ปี เท่านั้น แต่ครูปุ้มอยู่กับครูชลธี มานานถึง 30 ปี แต่อยู่ๆครูชลธีจะมาถีบเราทิ้ง
แต่ถ้าถามว่า ณ วันหนึ่งหากครูชลธี ต้องการกลับมาหาครูปุ้ม ครูปุ้มก็ยินดีที่จะดูแลครูชล เพราะครูปุ้มรู้ดีว่าไม่มีใครดูแลครูชล ได้ดีเท่ากับครูปุ้มอีกแล้ว เราทราบข่าวมาหลายกระแสเหลือเกินว่าครูชลธี อยู่ที่นั่นโดนดุโดนตะคอก แต่ถ้าหากถามว่าจะกลับมาเป็นสามีภรรยากันได้เหมือนเดิมหรือไม่นั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่พี่จะขอเป็นผู้ดูแลครูชลธี ในฐานะที่ครูชล เป็นศิลปินแห่งชาติ เป็นบุคคลสำคัญของชาติ และเป็นทรัพยากรของแผ่นดิน
ก็ขอกราบพี่น้องคนไทยทุกคนว่า ขอให้ยกโทษให้ครูชลธี ธารทอง ด้วยเพราะบางครั้งครู แก่แล้วครูจึงไม่ทันสิ่งที่อยู่รอบข้างที่มีความอ่อนไหว ด้วยอารมณ์ศิลปิน ที่ครูปุ้มพูดอย่างนี้ครูปุ้มไม่ได้เข้าข้างครูชลธี แต่ว่าครูชลเป็นคน ที่มีความเริ่มอ่อนไหว จึงต้องเป็นไปแบบนั้น
สุดท้ายนี้ ครูปุ้มขอฝากไปถึง พิธีกรชื่อดังรายการหนึ่ง ที่มาให้การบอกว่าครูปุ้มด่าพ่อด่าแม่ ครูชล ในงานคอนเสิร์ต ขอให้เตรียมหลักฐานเอาไว้ให้ดี เพราะว่าคุณมาพูดแบบนี้คุณไม่ได้ให้เกียรติ ซึ่งพี่ปุ้มเอง ขอบอกว่า หมู หมา ครูปุ้มยังไม่เคยด่า แต่คุณมาบอกว่ามีการด่ากัน ซึ่งคุณมาช่วยครูชลธี ครูปุ้มก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่กลับมาช่วยให้เขาแตกแยกกัน ไหนคุณบอกว่าจะช่วยให้เขารักกัน ซึ่งครูปุ้มเจ็บปวดมาก ขณะที่นั่งฟังอยู่บนศาล มากล่าวหาว่าครูปุ้ม ด่าถึงบุพการีของครูชลธี ต้องขอโทษด้วย เพราะครูปุ้มเป็นครู และงานใหญ่อย่างนั้นครูปุ้มเองก็เป็นแม่งานในการจัดงาน และตอนนี้คดีที่ครูปุ้มจะฟ้องพิธีกร เชื่อว่ามีคนอีกไม่ต่ำกว่า 10 คน ที่จะเดินเรียงหน้ามาเป็นพยานให้ครูปุ้ม ว่าไม่มีการด่ากันเกิดขึ้น ซึ่งครูปุ้มจะฟ้องพิธีกรคนดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่ต้องขอไปปรึกษาทนายความ ส่วนตัวให้ มีความพร้อมเสียก่อน./
/////////////////////////////////////
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี