ตำรวจภูธรภาค 6 ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดอุตรดิตถ์แถลงข่าวจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญและอาวุธปืนและยึดทรัพย์จำนวน 215 ล้านบาท ในเขตพื้นที่ จว.อุตรดิตถ์
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ถนนสายเอเชีย ต.น้ำริด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6พล.ต.ต. บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6,พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ก.จว.อุตรดิตถ์ นายสราวุธ ภักดี ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค ๖ ,นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผวจ.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.สุเทพ ประภากรณ์ รอง ผบก.ก.จว.อุตรดิตถ์ , ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ 6 ราย ดังนี้
โดยมี พ.ต.อ.สมศักดิ์ อู่ตุ้ม รอง ผบก.ภ.จว.อ.ต. พ.ต.อ.บุญเลิศ นาคทั่ง ผกก.สภ.วังกะพี้ และผกก.สภ.ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ในการจับกุมคดี ขยายผลทำลายเครือข่ายยาเสพติด 5.2 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์ 57 รายการ ราคาประมาณ 215 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.ตรอน บก.สกส. และชุด บก.บช.ปส. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสิทธิชัย แช่หัน , นายมโนชา แซ่เท่า และนายมานิตย์ แซ่ย่าง พร้อมกับยาบ้า จำนวน 5,200,000 เม็ด , รถยนต์ ทะเบียน 2 ฒน 6834 กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้บรรทุกยาบ้า โดยมีนายมโนชา แซ่เท่าขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน บย 4367 ลำพูน เป็นรถยนต์ที่ใช้ขับนำหน้า เหตุเกิดบริเวณด่านตรวจน้ำอ่าง(ขาเข้า)ต.น้ำอ่างอ.ตรอน จว.อุตรดิตถ์ จาการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้รับการว่าจ้างจาก นายวิโรจน์ หรือ ถั่ว ลีลาธรรมสัจจะ ว่าจ้างขนส่ง-ลำเสียงยาเสพติดของกลางจากนายทุนยาเสพติด ให้ลำเลียงยาเสพติดจาก จว.พะเยา ไปส่งมอบให้กับผู้รับซึ่งเป็นลูกค้าในพื้นที่ จว.อ่างทอง หรือ อยุธยาเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการ ทราบดังนั้น จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ดำเนินการขออนุญาตครอบครองหรือให้มีการครอบครองยาเสพติดภายใต้การควบคุมจากนั้นได้นัดส่งมอบในพื้นที่ ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา จนสามารถควบคุมตัว นายศักดิ์สิทธิ์ ปิงขุนทด , นายวรรักษ์ นิลจันทร์ และนายปณิธาน เอกพันธุ์ พร้อมรถยนต์ทะเบียน ทะเบียน 6 กจ 9529 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นยานพาหนะที่นายศักดิ์สิทธิ์ฯกับพวกขับมารับยาบ้า จำนวน 5,200,000 เม็ด จากนายสิทธิชัย”กับพวก จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางคือ รถยนต์ ” คัน โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ยาบ้า 26 กระสอบ จำนวน 6,600 มัด(ประมาณ 5,200,000 เม็ด) และยึดทรัพย์สินจำนวน 10 รายการ มูลค่าประมาณ 2,732,000 ล้านบาท บริเวณด่านตรวจยาเสพติดน้ำอ่าง อ.ตรอน จว.อุตรดิตถ์
ต่อมาต่อมาวันที่ 17 พ.ค.2565 ชุดขยายผล ภ.จว.อุตรดิตถ์ ทำการสืบสวนสอบสวนได้สอบสวนปากคำนายวรรักษ์ นิลจันทร์ ให้การว่าตนได้รับการติดต่อจากนายพงษ์พิพัฒน์ ธวัชประภาธร เจ้าของยาเสพติด ให้จัดหารถเพื่อสำหรับขับนำรถยนต์ที่ลำเลียงยาบ้ามาจากทางภาคเหนือ จากการตรวจบัญชี นาย พงษ์พิพัฒน์ ธวัชประภาธร พบว่ามีการโอนเข้ามาจำนวน 170,000 บาท จากบัญชีธนาคารชื่อบัญชี น.ส.เกศสุดา จินะใจหาญ ชุดสืบสวนขยายผลจึงได้ทำการสืบสวนขยายผล จนได้ทำการจับกุมผู้ร่วมขบวนการ และออกหมายจับ ผู้จ้างเปิดบัญชีม้า ผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า และผู้จัดหาบัญชีม้า รวม 4 ราย และยึดทรัพย์จำนวน 4 รายการ ราคาประมาณ 6 ล้านบาทไนพื้นที่ จ.พะเยา และ จ.เชียงราย
ต่อมาวันที่ 19 ก.ค. 2565 ได้สืบสวนขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าวพบความเชื่อมโยงทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวกับบริษัทวันวัน เทรดดิ้งจำกัด ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้ทำการตรวจค้นหาหลักฐานและรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการออกหมายจับและ จับกุมนายปัณณทัศน์ จินดาพัฒนทัศน์ ,บริษัท วันวัน เทรดดิ้ง จำกัด โดยนายเทพฤทธิ์ แซ่ติง กรรมการผู้จัดการ ในฐานะนิติบุคคล ,นายเทพฤทธิ์ แซ่ติง ในฐานะส่วนตัวและนายอรรถพล แซ่ติง (หลบหนี ในข้อหาสมคบและฟอกเงิน และยึดทรัพย์ 43 รายการ ราคาประมาณ 206 ล้านบาท
จับกุมคดีผู้ต้องหา1ราย 2 คน ยาบ้า 100,290 เม็ดอาวุธปืน 3 กระบอก กระสุนปีน 38นัดยึดทรัพย์ 2 รายการ ราคาประมาณ 175,000 บาท 1. นายบุญญฤทธิ์หรือดอส มั่นแย้ม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 307/1 ม.1 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จว.อุตรดิตถ์ 2. นายระมาดหรือเก๋ ชมโลก อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/6 ม.5 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จว.อุตรดิตถ์วัน/เวลาปี สถานที่จับกุม วันที่ 13 ตุลาคม 2565 บ้านเลขที่ 332/2 ม.1 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จว.อุตรดิตถ์ ต่อเนื่องบริเวณโคนเสาป้ายบอกชื่อหมู่บ้าน “บ.ม่อนกลาง” บริเวณริมถนนสายเอเชียฝั่งขาขึ้น อุตรดิตถ์ – แพร่ ม.23 ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จว.อุตรดิตถ์ และต่อเนื่องที่บ้านเลขที่ 19 ม.4 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จว.อุตรดิตถ์ ของวันที่ 13 ตุลาคม 2565 ของกลาง ยาบ้า 100,290 เม็ด อาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก กระสุนปืน จำนวน 38 นัด ตรวจยึดทรัพย์รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นชีวิคสีแดง หมายเลขทะเบียน กท 2372 อุตรดิตถ์ จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ 150,000 บาท รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโชนิค สีส้ม ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 คัน อาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก กระสุนปืน 38 เม็ด ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย (ยาบ้าจำนวน120 เม็ด) , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน โดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ” แจ้งข้อกล่าวหาให้ นายระมาดหรือเก๋ฯ ทราบว่า ” มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย (ยาบ้าจำนวน 170 เม็ด) , และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท *(เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมายและเป็นผู้ขับขี่ขณะมีสารเสพติด (มทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย ” และได้แจ้งข้อกล่าวให้ นายบุญญฤทธิ์หรือดอสฯ และ นายระมาดหรือเก๋ๆ ทราบอีกว่า ” ร่วมกันพยายามครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้เพื่อกรค้าโดยผิดกฎหมายก่อให้เกิดการแพร่กระจายของยาเสพติดในกลุ่มประชาชน (ยาบ้าประมาณ 100,000 เม็ด) เป็น ความผิดตามประมวลยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 90 , 104 , 145 (1), (2) โดย ม.104ความผิดฐาน เสพ ม.145 (1) คือ เพื่อการค้า 145 (2) แพร่กระจายยาเสพติด อัตราโทษ จำคุก 2 ปี ถึง 20 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 2,000,000 บาทพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.240 มาตรา 7 ,72 โทษ 1 ปี ถึง 10 ปี ปรับ 2,000 – 20,000 บาท พฤติการณ์ จากการที่ชุดปฏิบัติการฯ ได้จับกุมผู้เสพยาเสพติด และได้สอบสวนทราบว่าผู้เสพได้ซื้อยาบ้ามาจากนายบุญญฤทธิ์หรือดอส มั่นแย้ม ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 332// ม.1 ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จว.อุตรดิตถ์ จนกระทั่งวันที่(13 ต.ค.65) เวลาประมาณ 14.00 น. ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุตรดิตถ์ จึงได้เข้าไปตรวจสอบบ้านดังกล่าวพบนายบุญญฤทธิ์หรือดอสฯ ยืนอยู่บริเวณข้างบ้านจึงได้เข้าไปควบคุมตัวและตรวจค้นตัวนายบุญญฤทธิ์พบยาบ้า จำนวน 120 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกงของนายบุญญฤทธิ์หรือดอสฯ และระหว่างการจับกุมนายบุญญฤทธิ์หรือดอสฯ อยู่นั้น ได้มีนายระมาดหรือเก๋ ซมโลก ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาหานายบุญญฤทธิ์หรือดอสฯ ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าควบคุมตัวและได้ตรวจสอบพบของกลางยาบ้า จำนวน 17 เม็ดอยู่ในกระเป๋าสะพายของนายระมาดหรือเก๋ ขมโลกจากการชักถามนายบุญญฤทธิ์หรือดอสฯ และ นายระมาดหรือเก๋ฯ ผู้ต้องหาทั้งสองรับว่า ได้นัดกันมาเพื่อเตรียมตัวจะไปเก็บยาบ้าและระหว่างชักถามอยู่นั้น ได้มีโทรศัพท์จากผู้สั่งการ โทรเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของ นายดอสฯ ให้เตรียมตัวรับงานได้เลย จากนั้นผู้สั่งการได้ส่งพิกัดจุดเก็บยาบ้าผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ของนายบุญญฤทธิ์หรือดอสฯ ที่บริเวณป้ายบอกทาง (บ.ม่อนกลาง ต.บ้านด่านนาขาม จว.อุตรดิตถ์) จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองยินดีและยินยอมที่จะพาเจ้าหน้าที่ชุดขับกุมเดินทางไปตรวจสอบบริเวณจุดที่ผู้สั่งการให้ไปเก็บยาบ้า เมื่อเดินทางไปถึงพบถุงกระสอบจำนวน 1 ใบภายในถุงกระสอบพบยาบ้าบรรจุอยู่จำนวน 50 มัด (100,000 เม็ด)จากการจับกุมทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเครือข่ายของกลุ่มนักค้ายาเสพติดรายสำคัญทางภาคเหนือที่ลับลอบนำยาบ้าเข้ามาจำหน่ายพื้นที่ ชุดปฏิบัติการฯจะได้ทำการสืบสวนเพื่อทำการติดตามจับกุมต่อไป จากนั้นชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่คำมัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผวจ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ยาบ้าเป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม ทางจังหวัดเองก็ได้มีนโยบายร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ในการระดมกำลังกวาดล้างยาบ้าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ณัฐวัฒน์ ราชประสิทธิ์ ภาพ/ข่าวอุตรดิตถ์