ชาวบ้านโวยถนนพังรวมตัวปลูกต้นกล้วยและต้นข้าวกลางถนนประชดหน่วยงาน

ชาวบ้านโวยถนนพังรวมตัวปลูกต้นกล้วยและต้นข้าวกลางถนนประชดหน่วยงาน

ชัยภูมิ ชาวบ้านโวยถนนพังรวมตัวปลูกต้นกล้วยและต้นข้าวกลางถนนประชดหน่วยงานที่รับผิดชอบ
สาย หน้าอบต.บ้านค่าย- บ้านงิ้ว ระยะทาง 3 กม. หลังถนนพังเป็นหลุมบ่อ ทนใช้นาน กว่า20 ปี

 

เกิดอุบัติเหตุทั้งเจ็บและตายมากกว่า20ราย จนชาวบ้านต้องลงขันหาเงินมาซื้ออุปกรณ์ ซ่อมเองอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด ได้ลงขันได้เงินมากว่า1แสนบาท เพื่อติดตั้งไฟโซล่าเซลล์ ริมถนนบริเวณดังกล่าวที่ชำรุดเสียหายเพื่อเพิ่มความสว่างในการลดอุบัติเหตุและอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชาวบ้านที่สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก

ชาวบ้านโวยถนนพังเป็นหลุมเบ้าขนมครกนานกว่า 20 ปี ไม่เคยได้สร้างใหม่มีแต่ชาวบ้านออกเงินช่วยกันซ่อมเอง

ล่าสุด( 4 พ.ย.65 ) ชาวบ้านต.บ้านค่ายและต.โนสำราญ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ กว่า50 คน ซึ่งเป็นผู้ใช้รถใช้ถนนสายหน้าอบต.บ้านค่าย – บ้านงิ้ว ระยะทาง 3 กม. ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ขอให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบถนนเส้นดังกล่าวเร่งเข้ามาแก้ปัญหาให้กับผู้ที่สัญจรไปมาด้วย ถนนดังกล่าวสร้างมานาน 20 ปีแล้ว ปัจจุบันถนนพัง เป็นหลุมเป็นบ่อ ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากกว่า 20 ราย
ด้านนายทองคูณ แสนขวา อายุ 77 ปี บ้านเลขที่ 41 หมู่ 7 บ้านงิ้ว หมู่ 7 ต.โนนสำราญ พร้อม น.ส.จินดารัตน์ เทพปิยะวงศ์ อายุ 43ปี บ้านงิ้ว หมู่ 7 ต.โนนสำราญ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมชาวบ้าน กว่า50 คน เผยว่าที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร่วมกันออกเงินลงขันเพื่อซื้ออุปกรณ์ มาซ่อมเองโดยตลอด แต่ก็ซ่อมได้ไม่นานก็พังอีกเป็นเช่นนี้ประจำ แต่ระยะหลังๆเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ก็รายหลาย จนชาวบ้านและกลุ่มเยาวชนจิตอาสาได้ออกเงินลงขันกันได้เงินกว่า1แสนบาทนำมาซื้อไฟโซล่าเซลล์ ทำเสาติดตั้งตามริมถนนได้ไฟกว่า30ต้นเพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับชาวบ้าน แต่ก็มิวายที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากถนนพังเป็นหลุมเป็นบ่อจำนวนมากพอๆกับเบ้าขนมครกก็ว่าได้ ล่าสุดก็ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถเก๋งโตโยต้าของชาวบ้านคันหนึ่งที่ขับมาบนถนนหักหลบหลุมจนเสียหลักตกลงข้างทางโชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิตซ้ำอีก ดังนั้นวันนนี้ชาวบ้านและผู้สูงอายุ พร้อมด้วยกลุ่มจิตอาสา ใน หมู่บ้าน บ้านงิ้ว ต.โนนสำราญ และ ต.บ้านค่าย กว่า 50 คนจึงได้รวมตัวกันปลูกต้นกล้วย ต้นข้าวกลางถนนเพื่อประชดหน่วยงานที่รับผิดชอบ พร้อมเรียกร้องให้รีบเข้ามาตรวจสอบและทำการแกไขปัญหาดังกล่าวให้กับชาวบ้านด้วยโดยเฉพาะถนนสายดังกล่าว นับว่าเป็นสายหลักที่เชื่อมต่อไปยังหมู่บ้านตำบลต่างๆทั้งในและนอกจังหวัด ทั้งเด็กนักเรียน วัยทำงาน คนแก่ชรา คนป่วย ที่ใช้เส้นทางนี้ หากเป็นไปได้อยากให้ทำการสร้างใหม่ไปเลย เพราะใช้มานานถนนคงหมดสภาพไปแล้วเวลารถวิ่งยางล้อกับถนนไม่เกาะกันจึงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งก็เป็นได้

ขณะที่นายสำเริง ทวีภูมิ นายก อบต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบดูแล ก็ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับชาวบ้านและยืนยันว่า ขณะนี้ทางอบต.บ้านค่าย ได้รับทราบปัญหาของชาวบ้านมานานแล้วโดยจะเร่งดำเนินการทำหนังสือถึง อบจ.ชัยภูมิ ที่เป็นผู้รับผิดโดยตรงเร่งเข้ามาแก้ไขเป็นการด่วน ซึ่งงบประมาณในการลาดยางใหม่ ระยะทาง กว่า3 ก.ม.น่าจะใช้งบประมาณร่วม7 ล้านบาท โดยจะได้เร่งหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า เวลาชาวบ้านร้องเรียนไปครั้งนึ่ง หน่วยงานก็จะมาซ่อมแซมแบบลูบหน้าปะจมูก ผ่านไปไม่ถึงเดือนถนนก็จะพังแบบเดิมอีก บางจุดยิ่งซ่อมยิ่งพังมากกว่าเก่า ชาวบ้านที่ใช้ถนนเส้นนี้ ต้องอาศัยความจำ หลุม บ่อ หรือเนินในแต่ละจุดกันเอาเอง วันไหนลืมหรือเผลอก็จะตกหลุมอย่างแรง บางครั้งรถได้รับความเสียหาย ทั้งยางแตกล้อแม็กแตก หรือไม่ รถก็ตกถนน แต่ส่วนใหญ่แล้ว รถที่เสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุจะเป็นรถเด็กนักเรียนหรือคนนอกพื้นที่ไม่ชินเส้นทาง จึงฝากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงช่วยมทำถนนให้ใหม่เสียทีหากงบประมาณไม่เพียงพอ ก็ขอให้เข้ามา แก้ไขโดยการตัดอัดบดปะเป็นช่วงๆแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นไปก่อน แต่อย่างเอามาหยอดซ่อมตามหลุมเพราะที่ผ่านมาชาวบ้านซ่อมเองมาตลอดแต่ก็พังมากยิ่งกว่าเดิมซ้ำไปอีก

ภาพ/ข่าว วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ 098-6368829

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม