กาญจนบุรี ปธ.หอการค้า จ.กาญจน์ นำ 10 ภาคีเครือข่าย ร่อนแถลงการณ์ ถึง อัจฉะริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังกล่าวหา จ.กาญจน์ เป็นต้นเหตุนำแรงงานไปแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่สมุทรสาคร

กาญจนบุรี ปธ.หอการค้า จ.กาญจน์ นำ 10 ภาคีเครือข่าย ร่อนแถลงการณ์ ถึง อัจฉะริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังกล่าวหา จ.กาญจน์ เป็นต้นเหตุนำแรงงานไปแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่สมุทรสาคร

กาญจนบุรี ปธ.หอการค้า จ.กาญจน์ นำ 10 ภาคีเครือข่าย ร่อนแถลงการณ์ ถึง อัจฉะริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังกล่าวหา จ.กาญจน์ เป็นต้นเหตุนำแรงงานไปแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่สมุทรสาคร

วันนี้ 06 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี ถ.แสงชูโต ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายบุญชู วิวัฒนาทร ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม 10 ภาคีเครือข่ายออกแถลงการณ์ถึง นายอัจฉะริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังกล่าวหา จ.กาญจนบุรี เป็นต้นเหตุนำแรงงานชาวเมียนมาไปแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่สมุทรสาคร

โดยนายบุญชู วิวัฒนาทร ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี แถลงว่า ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม กรดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนในทุกระดับ รวมถึงจังหวัดกาญจนบุรีบ้านเราซึ่งได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย การระบาดในรอบแรกที่ผ่านมานั้นทุกภาคส่วนใช้ความพยายาม และทรัพยากรทั้งหมดที่มี เพื่อลดการระบาดของโรค และบรรเทาปัญหาผลกระทบที่เกิดกับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามรถ รวมทั้งพลิกเศรษฐกิจใน ทุกๆทางให้กลับมาฟื้นคืนยืนได้อีกครั้ง

จังหวัดกาญจนบุรีได้รวมพลังที่เข้มแข็งจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการนำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงาน องค์กรภาคเอกชน และพี่น้องประชาชาทุคนในทุกพื้นที่ ร่วมกันทำงานด้วยความรัก สามัคคี ทุ่มเท อดทน จนทำให้กาญจนบุรีบ้านเราผ่านพันเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด ครั้งแรกมาได้ และยังคงดำรงมาตรการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง จนทำให้พี่น้องประชาชนขาไทยเกิดความเชื่อมั่นเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอันดับต้นๆของประเทศส่งผลช่วยให้เศรษฐกิจทุกภาคส่วนฟื้นคืนมาได้อย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งมีการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVD-19) ขึ้นมาอีกครั้ง ทุกฝ่ายเริ่มเดินหน้าหาทางป้องกันและแก้ไขทันที มีการประกาศใช้มาตรการค่อยๆไล่ระดับความเข้มขัน เพื่อรักษาความสมดุลทั้งการป้องกันการระบาดของโรคกับการประคับประคองเศรษฐกิจเพื่อปากท้องของพี่น้องประชาชนให้สามารถไปด้วยกันได้ จนกระทั่งเราได้พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งติดเชื้อมาจกจังหวัดอื่น และเดินทางเข้ามาในจังหวัดเรา

แผนกระบวนการของ ศบค.จังหวัด ถูกนำมาใช้สอบสวนโรคและควบคุมการระบาดอย่างทันท่วงที มีการขอความร่วมมือทุกฝ่ายในการยกระดับมาตรฐานการป้องกันโรค และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่เต็มลังความสมารถ เพื่อหาทางยับยั้งป้องกันโรค

อีกด้านหนึ่งจังหวัดของเราก็ถูกโจมตีและตกเป็นจำเลย ในฐานะจังหวัดชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและอัตราการระบาดโรคสูงมาก เพราการระบาดใหม่ครั้งนี้มีจุดเริ่มตันจากการติดเชื้อของกลุ่มพี่น้องแรงานมีนมาที่จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้มีการค้นหาตันตอของกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าวกัน
อย่างกว้างขวาง และมีการกล่าวโทษ ข้าราชการ หน่วยงานต่างๆ ของจังหวัดกาญจนบุรีว่าไปเกี่ยวข้องกับ
ขบวนการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเหล่านั้น

พวกเรามั่นใจว่าข้าราชการดีๆ จำนวนมากกำลังเสียสละทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยตาย ห่างไกลลูกเมียและครอบครัวอันเป็นที่รัก ในการดำเนินการค้นหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ เพื่อทำการรักษาไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง สกัดกั้นการเดินทางของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในทุกทิศทุกทาง โดยเฉพาะช่องทางผ่านชายแดนที่มีระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร

นอกจากข้าราชการที่ทำงานอย่างหนักแล้ว พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน ต่างก็มีความตระหนักอย่างมากในการช่วยกันเป็นหูเป็นตาป้องกันมิให้บุคคลกลุ่มเสี่ยงข้ามาในพื้นที่ ทุกคนต้องการขวัญกำลังใจ และเรากำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัสที่เปรียบเสมือนข้าศึกที่คนทั้งโลกพ่ายแพ้มาแล้ว วินาทีนี้เราต้องการความรัก ความสามัคคี เอกภาพ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากที่สุด พวกเราขอเรียกร้องให้ยุติการทำลายขวัญกำลังใจข้าราชการที่กำลังทุ่มเททำงานเป็นด่านหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคโควิด รวมถึงการบั่นทอนเอกภาพความรัก ความสามัคคี ให้ยุติลงโดยเร็วก่อนจะส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อประสิทธิภาพการทำงานเพื่อยับยั้งโรค

ภาคีเครือข่ายประชาชนชาวกาญจนบุรี อันประกอบด้วย 1.สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี 2.สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวกาญจนบุรี 3.หอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี 4.สภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี 5. สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกาญจนบุรี 6.สมาพันธ์ เอส เอ็ม อีไทย จังหวัดกาญจนบุรี 7.สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดกาญจนบุรี 8.ชมรมอนุรักษ์ธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอศรีสวัสดิ์ 9.กลุ่มเครือข่ายท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี และ 10.ชมรมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี

ขอแถลงการณ์กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กล่าวหาว่าจังหวัดกาญจนบุรี เป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ให้ทุกฝ่ายทราบดังต่อไปนี้

1. จังหวัดกาญจนบุรีไม่ใช่จังหวัดที่เป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อโควิด 19 ที่จังหวัดสมุทรสาครตามที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กล่าวหา โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เผยเส้นทางของเชื้อโควิดที่ระบาดในจังหวัดสมุทรสาครว่าเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่พบในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศมียนมา และจากการตรวจสอบยังพบว่าแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ ส่วนใหญ่เดินทางมาจากชายแดนด้านตะวันตกของภาคเหนือ

ซึ่งนายอัจฉริยะฯ ควรศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ๆ ที่จะมากล่าวหาคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งการกล่าวหานี้ส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อจังหวัดกาญจนบุรี และพวกเราขอเรียกร้องให้นายอัจฉริยะฯ ขอโทษต่อชาวจังหวัด
กาญจนบุรี

2. พวกเรารู้สึกเสียใจข้อกล่าวหาอันไม่เป็นธรรมที่มีต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีและเหล่าข้าราชการ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ และให้นายอัจฉริยะฯ ยุติการใช้คำพูดหยาบคายดูหมิ่น รวมทั้งกิริยาที่ไม่สุภาพต่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีเคารพนับถือ

3. การกล่าวหาชาวจังหวัดกาญจนบุรีเป็นต้นตอของการลักลอบขนแรงงานเถื่อน หรือการขายชาติเป็นคำพูดของผู้ที่ไม่สมควรเป็นบุคคลสาธารณะ การกระทำของนายอัจฉริยะฯ เป็นการกระทำของคนที่ไม่มีความรอบรู้ต่อบริบทของจังหวัดกาญจนบุรี สร้างความปั่นป่วน แตกแยก และทำลายความเชื่อมั่นของระบบราชการ พวกเราขอประณามการกระทำของนายอัจฉริยะฯ ในครั้งนี้

4.ขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี ตระหนักถึงสถานการณ์ร้ายแรงที่จังหวัดและประเทศ
ของเรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ มีความหนักแน่น ไม่อ่อนไหวไปตามข่าวสารที่ยังไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง และ
งดเผยแพร่ส่งต่อ หรืแสดความคิดเห็นจนเกิดการบั่นทอนกำลังใจและบั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงาน
และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีในการทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้อง
ประชาชนต่อไป

5.ขอสนับสนุนกระบวนการสืบสวนความผิดให้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ กรณีการกล่าวหา
เจ้าหน้าที่และกลุ่มบุคคล เรื่องการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวอันเป็นภัยของชาติตามขั้นตอนของกฎหมายให้
ถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝาย

สุดท้ายนี้ขอให้พี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีรี มีกำลังกาย กำลังใจ จับมือสู้ภัยโควิดไปด้วยกัน และขอให้ผู้ที่สร้าง
ความปั่นป่วน คิดร้ายต่อจังหวัดกาญจนบุรีจงแพ้ภัยตัวเอง และขอให้ผู้ที่สร้างสรรค์ความดีให้เกิดขึ้นในแผ่นดินกาญจนบุรีจงมีแต่ความสุขสวัสดีตลอดไป” นายบุญชู วิวัฒนาทร ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี แถลง
///////////////////////////////////////////////////////////

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป สังคม