สนง.เกษตร เมืองช้าง ยุคใหม่ เปิดสอนการขายสินค้าเกษตรออนไลน์ให้กับพี่น้องชาวเกษตรกร
4ก.พ 2566 ผู้สื่อข่าวประจำจ.สุรินทร์รายงานว่า
ณ สนง.เกษตร อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้เปิดสอนการขายสินค้าออนไลน์ ให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรอำเภอสังขะ โดยมีนายมานิตย์ สีพูแพน
หัวหน้าเกษตรอำเภอสังขะเเละคณะ พร้อมวิทยากรรับเชิญ นายชนะชล มูลจันทร์ นักธุระกิจผู้คล่ำวอดในการขายออนไลน์โดยตรง ได้นำประสบการณ์ เเละความรู้ มาเเนะเเนวทางให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
เป็นที่รู้กันว่าสังคมปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นการทำการเกษตรยุคใหม่ ไม่ใช่แค่การเพาะปลูกอย่างเดียว แต่ต้องมองถึงด้านการตลาด เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย ปัจจุบันเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อสังคมทั่วโลก คนส่วนใหญ่สื่อสารผ่านสมาร์ทโฟนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์ ทั้ง Facebook ,IG ,Twitter ,LINE หรือแม้แต่แอปพลิเคชันแชร์คลิปสั้นอย่าง TikTok ก็ได้กลายเป็นช่องทางยอดนิยมในการสื่อสารออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ช่องทางดังกล่าว จึงกลายเป็นโอกาสการตลาดของเกษตรกร ที่จะได้ขยายฐานลูกค้าแบบเดิมไปสู่โลกที่กว้างขึ้นนั่นเอง
การขายสินค้าทางออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ จึงไม่ใช่แค่การซื้อขายของธรรมดา แต่ต้องสร้างประสบการณ์ใหม่ มีเรื่องราวที่โดดเด่น น่าสนใจ และกลยุทธ์ที่คิดมาล่วงหน้า เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำเป็นลูกค้าประจำ เบื้องต้นก็ต้องเข้าใจการตลาดออนไลน์ก่อนว่าสามารถทำอย่างไรได้บ้าง ที่ช่วยให้พี่น้องเกษตรกรเข้าถึงตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายชนะชล มูลจันทร์ เปิดเผยว่า ควรหาจุดเด่นของสินค้าว่าคืออะไร สินค้าเกษตรของเราจะโดดเด่นได้ก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Storytelling คือการเล่าเรื่องสินค้าให้น่าสนใจ แต่จะเล่าอย่างไรจึงน่าสนใจและแปลกใหม่นั่นมีกลยุทธ์มากมาย เช่น ทำคลิปสั้นเพื่อโปรโมทในเพจของเราเอง เล่าเรื่องความละเมียดในการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว หรือสร้างสตอรี่ด้วยการคิดแบบก้าวหน้า เช่น บอกเล่าเรื่องราวผ่านวิถีชุมชนและเกษตรอินทรีย์ หรือแม้แต่เป็นคลิปสั้นแนวตลกก็ยังได้ เพราะจำไว้สิ่งสำคัญของการเล่าเรื่องคือ เล่าแล้วคนฟังจำได้ นึกถึงได้เป็นรายแรกๆ นี่ก็คือการสร้างการรับรู้ นอกจากนี้การจัดแพ็คเกตสินค้าที่ดึงดูดใจ และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกด้วย
ลำดับต่อมา ไม่รู้จะใช้แพลตฟอร์มไหน เริ่มต้นที่ Facebook ก่อน หากอยากจะทำการตลาดสักอย่าง หรือขายสินค้าเกษตรผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากแพลตฟอร์มไหนดี Facebook ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่เข้าถึงผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ แค่นี้พี่น้องเกษตรกรก็สามารถทำการสมัครสมาชิก และซื้อขายผ่านแอพฯได้แล้ว
ควรขายสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งาน โดยส่วนใหญ่แล้วกลุ่มผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากที่สุดคือ กลุ่มเด็กรุ่นใหม่ หรือกลุ่มมิลเลนเนียลนิยม twitter และ IG ขณะที่กลางคนและสูงอายุมักใช้ Facebook และ LINE ดังนั้นหากจะขายให้ผู้สูงอายุ การโปรโมทในเพจ Facebook หรือการใช้การตลาดใน ถ้าเจาะตลาดได้แล้วเขาจะเป็นลูกค้าประจำของเรา
ถึงแม้การขายสินค้าเกษตรหรือทำการตลาดบนโลกออนไลน์ เราจะไม่ได้เห็นหน้าคนซื้อ หรือรับมือกันโดยตรง แต่หัวใจสำคัญอย่างการบริการก็ห้ามลดลงเด็ดขาด หากพวกเขามีประสบการณ์ในเชิงลบกับทางแบรนด์ เขาจะไม่ใช้บริการอีกเลยทันที จากตัวเลือกที่มีให้มากมาย ทำให้เขาย้ายไปใช้บริการเจ้าอื่นได้ไม่ยาก กลับกันหากได้รับประสบการณ์เชิงบวกกับแบรนด์ในสื่อโซเชียลมีเดียล่ะก็ เขาจะแนะนำบอกต่อกับเพื่อนหรือคนใกล้ตัว ซึ่งนี่เป็นการตลาดที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราได้ลูกค้าใหม่เกือบจะ 100%
ลูกค้าสั่งซื้อผลไม้ที่ร้าน หรือซื้อผักออร์แกนิกที่ร้าน ก็อาจจะเสนอของแถมหรือลดราคาให้เพิ่มเติม เพื่อแลกกับการรีวิวเล็กๆ น้อยๆ ในเพจของเขา หรือแม้แต่การให้ลูกค้าปกติรีวิวสินค้าให้เพื่อแลกกับของแถมต่างๆ กลยุทธ์นี้ก็สามารถใช้ได้ และจริงอยู่ว่ามันดูเหมือนการตลาดที่ไม่จริงจังนักและไม่ได้มีความแปลกใหม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเราอยู่ในยุคที่คนส่วนใหญ่เชื่อรีวิว ก็ทำเถอะไม่เสียหาย เพราะกึ่งหนึ่งของผู้บริโภคมองว่า พวกเขาอยากได้คำแนะนำจากคนกลุ่มที่เคยซื้อมาก่อนเพื่อที่จะตัดสินใจซื้อ และยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่นิยมมากในปัจจุบัน คือการใช้เทคนิค ถ่ายทอดสด หรือ ไลฟ์สด และที่สำคัญการเพิ่มช่องทางออนไลน์ไม่ได้หมายความว่าจะลดช่องทางออฟไลน์ลง ดังนั้นจะต้องโฟกัสไปพร้อมๆ กัน เพราะคนเดี๋ยวนี้เข้าใจยาก บางคนเห็นสินค้าในโซเชียลแล้วตัดสินใจซื้อ ในขณะที่บางคนเห็นสินค้าในโซเชียลแล้ว แต่อยากมาดูเองที่ร้านหรือที่สวนด้วยก่อนที่จะซื้อ ดังนั้นทุกช่องทางจำหน่ายจึงสำคัญมากพอๆ กัน
ภาพ/ข่าว พูนสิน ยั่งยืน