กาญจนบุรี โชคดีที่ติด GPS ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า ชุดประสานชายแดนไทยเมียนมา ร่วมกันเจรจากับทหารเมียนมา ขอไถ่รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ของบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ที่โดนแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ทำทีขอเช่า ก่อนนำรถมาขายในพื้นที่ พญาตองซู

กาญจนบุรี โชคดีที่ติด GPS ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า ชุดประสานชายแดนไทยเมียนมา ร่วมกันเจรจากับทหารเมียนมา ขอไถ่รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ของบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ที่โดนแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ทำทีขอเช่า ก่อนนำรถมาขายในพื้นที่ พญาตองซู

กาญจนบุรี โชคดีที่ติด GPS ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า ชุดประสานชายแดนไทยเมียนมา ร่วมกันเจรจากับทหารเมียนมา ขอไถ่รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ของบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ที่โดนแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ทำทีขอเช่า ก่อนนำรถมาขายในพื้นที่ พญาตองซู ประเทศเมียนมา ชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี

วันนี้ 21 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปฐมพงษ์ สิงโตทอง เจ้าของรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กฌ 5568 กทม. ใช้น้ำยาแอลกอฮอล เข้าตรวจสอบรถยนต์ของตนเอง พร้อมทั้งใช้น้ำสเปรย์แอลกอฮอลฉีดพ่นพวงมาลัยและเบาะนั่ง รวมทั้งพื้นที่ในห้องโดยสารของรถยนต์ของตน ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารหน่วย ฉก.ลาดหญ้า โดย รท.ศุภกฤต ทรัพย์เจริญ ผบ.มว.ฉก.ลาดหญ้า และ ร.ต.พรชัย ใครหอม หน.หน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่ 4 บ้านพระเจดีย์สามองค์ นำรถยนต์ข้ามแดนกลับมาส่งมอบคืนให้ได้สำเร็จ หลังจากต้องใช้เวลาประสานทางทหารเมียนมา เพื่อขอไถ่รถยนต์คันดังกล่าวคืนมา จากนายทุนชาวเมียนมา ที่รับรถยนต์คันนี้จากขบวนการโจรกรรมรถยนต์ ที่นำมาขายให้ในราคา 660,000 บาท

โดยนายปฐมพงษ์ เจ้าของรถ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว การได้รถยนต์กลับคืนมาในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ให้ความช่วยเหลือ ตนอาจเป็นคนโชคดีไม่กี่คนที่สามารถได้รถยนต์กลับคืนมา จึงอยากฝากถึงเพื่อนๆที่ประกอบธุรกิจรถเช่าทุกๆคน ให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพ ที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อขอเช่ารถ ที่สำคัญขอให้ทุกคนให้ความสำคัญในการติดตั้งเทคโนโลยี่ GPS ไว้ในรถ เพื่อสามารถติดตามดูรถของเราหลังให้เช่า ว่าผู้เช่านำไปที่ไหน หากไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเช่นพื้นที่ชายแดนควรจับตาและเฝ้าระวัง ติดต่อผู้ขอเช่าทันที โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่ารถโดนจารกรรมแล้วให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและเร่งออกติดตามทันที……………มีเสียง……………………..

และย้อนไปเมื่อวันที่15 มกราคา 2564 น.ส.ปาริชาติ น้อยพึ่งบุญ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ต.คลองตะเล็ตฝั่งตะวันออก ต. ปากน้ำ อ เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ได้ติดต่อขอเช่ารถยนต์ toyota ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กณ 5568 โดยแจ้งว่าจะนำรถยนต์ไปใช้ ในพื้นที่ กทม –กาญจนบุรี-ราชบุรี-ชลบุรี เป็นเวลา 5 วัน ในราคาค่าเช่าวันละ 1,200 บาท โดยผู้เช่าได้มารับรถในเวลา 13.00 น ที่บริษัทของผู้เสียหายซึ่งตั้งอยู่บริเวณ เมกะบางนา

ต่อมาในเช้าวันที่16 ผู้เสียหายได้ติดตามข้อมูลจาก GPS ของรถยนต์พบว่า 0.001 รถยนต์ออกจากหมู่บ้านวิโรจน์วิลล์ 1 บางบัวทองมุ่งหน้าสู่ กาญจนบุรี 01.57 น พบอยู่ในพื้นที่ อ ไทรโยค 03.15 น เข้าเขต อ ทองผาภูมิ 04.28 อยู่ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี 7.50 น.อยู่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ ก่อนจะเข้าพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง บริเวณเขาคอนโด ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ต. หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ติดชายแดนเมียนมา จนกระทั่งเวลา 10.18 น รถยนต์คันที่โดนจารกรรม ได้ผ่านเข้าประตูช่องที่ ซ. พานิชย์ 8 เพื่อเข้าไปฝั่งกิ่ง อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา เมื่อมั่นใจแล้วว่ารถยนต์ของตนถูกโจรกรรมไปขายประเทศเพื่อบ้านแล้วตนจึงแจ้งเพื่อน น.ส.วรันภัคค์ สุวรรณ์สิริกุล ซึ่งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจรถเช่า พร้อมทั้งได้รีบไปแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ พร้อมทั้งได้ประสานขอความช่วยเหลือเพื่อนที่เป็นทหาร ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ให้ช่วยติดตามรถยนต์ที่ถูกจารกรรมไป
ขณะเดียวของวันที่ 16 ม.ค. 46 เวลา 18.00 น. ทหารชุดฉก.ลาดหญ้า ร่วมกับสภ. สังขละบุรี ทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบนำยานพาหนะออกนอกราชอาณาจักรจำนวน 5 คนรถยนต์จำนวน 1 คันบริเวณจุดตรวจความั่นคง สะพานรันตี เนื่องจากก่อนหน้านี้ในเวลา 12.00 น. ทหารชุดฉก.ลาดหญ้า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าพบรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ขับมุ่งหน้าไปที่ บ้านพระเจดีย์สามองค์ และจะนำออกไปฝั่งประเทศเมียนมา จึงได้ทำการติดตามรถยนต์ตามข้อมูลที่ได้จากแหล่งข่าวโดยเวลา 13.00 น.

ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ารถคันดังกล่าวขึ้นสัญญาน GPS อยู่ที่ อ.พญาตองซูประเทศเมียนมา จึงได้ทำการประสานกับทหาร ทมม. พันร. 31 ประจำพื้นที่ อ.พญาตองซู ผ่านทางชุดประสาน นปพท. 4 ให้ติดตามรถคันดังกล่าวให้และประสานกับจุดตรวจสะพานรันตี ให้สกัดจับผู้ที่ขับขี่รถฟอร์จูนเนอร์ที่กำลังจะกลับลงไปทาง อ.ทองผาภูมิ ต่อมาเวลา 1530 ได้รับการประสานจากทหารชุดทหารเมียนมา พันร. 31 ประจำพื้นที่ อ.พญาตองซู ว่าพบรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ คันดังกล่าวและตัวผู้รับซื้อและนายหน้าฝั่ง อ.พญาตองซู จากนั้นจึงได้มีการเจรจาขอคืนรถยนต์คืนกลับฝั่งไทยบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ซึ่งจากการเจรจา ทหารเมียนมา พันร. 31 จะทำการคืนรถยนต์กลับฝั่งไทยต่อเมื่อผู้รับซื้อได้รับเงินคืนจากฝั่งไทยเป็นจำนวนเงิน 850,000 บาท ตามราคาที่ผู้รับซื้อได้จ่ายให้กับนายหน้าและ ทหารเมียนมา ชุดพัน ร. 31 จะดำเนินการเก็บรักษารถยนต์ไว้ให้ในระหว่างที่รอการดำเนินการ

จากนั้นเวลา 17.00 น. ได้รับแจ้งจากจุดตรวจความมั่นคง สะพานรันตีว่าพบผู้ขับขี่ตามข้อมูลที่ได้จาก ชป.ข่าวโดยสารมาบนรถยนต์นิสสันมาท หมายเลขทะเบียน กฉ. 6391 จำนวน 5 คนจึงให้ทำการควบคุมตัวและสอบปากคำเบื้องต้นประกอบด้วย
นายอภิสร ดาวเรือง อยู่บ้านเลขที่ 26/2 ม.4 ต.หนองโสน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี
นายเรวัฒน์ ชาวล้วน น.ส.จุฑามาศ จันทร์ปัญญา ที่อยู่ 111 ม 3 ต.ทุ่งไทรทอง อ.ลำทับ จ.กระบี่ นายอิทธิเดช อบอุ่น ที่อยู่ 152/21 ซอนามัยงามเจริญ 314 แขวงท่าแล้ง เขตบางขุนเทียน กทม. นายพรประทีป เจริญผล อยู่ที่ 502/3 ม. 5 ต.ม่วงสามสิบ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าช่วงบ่ายวันที่16 ม.ค. มีรถยนต์นิสสันมาท สีขาว มารับ นายวิรัตน์ นารี (กบ) ไปขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ที่จอดอยู่ในบริเวณเขาคอดโดรีสอรต์ พื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หลังจากที่นายกบ เดินทางไปขับรถที่เขาคอนโดรีสอร์ตแล้ว นายโทแหล่ ถนัดแดน (นายขาว)(ชาวเมียนมา) นายโทแหล่ได้ขอเจ้าของบ้านบริเวณประตูไม้ท้าย ซ.พานิชย์ 8 เพื่ออกมากดตัง ที่ตู้ atm บริเวณป้อมตำรวจ เจดีย์สามองค์ แต่ความจริงไม่ได้ไปกดเงิน แต่เป็นการเปิดประตูเพื่อรอ รถจากนายกบ เมื่อนายกบ ขับรถมาถึงประตู นายขาวได้ขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์คันที่โจรกรรมมาข้ามแดน เข้าไปในพื้นที่พยาตองซู โดยนายกบ เปลี่ยนมานั่งข้างนายขาว โดยขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหาคน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้ขออายัดตัว จาก สภ.สังขละบุรี เพื่อทำการสอบสวนและขายายผลให้ถึงผู้ที่ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไป
โดยเบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ หรือ รับของโจรกับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ก่อนทำเรื่องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการต่อไป
จากนั้นวันที่ 19 ม.ค. 64 นพ.ปท. 4 ร่วมกับฉก. ลาดหญ้าเข้าเจรจากับ ทหารเมียนมา พัน ร. 31 ประจำพื้นที่ อ.พญาตองซู พร้อมด้วยนายหน้าฝั่ง อ.พญาตองซู เพื่อตกลงจำนวนเงินที่จะใช้เพื่อนำรถยนต์กลับมาฝั่งประเทศไทยโดยได้ขอสรุปจำนวนเงินที่จะต้องส่งให้กับผู้รับซื้อฝั่งเมียนมา จากเดิมที่ 850,000 บาทลดลงเหลือที่ 660,000บาท การนำรถคันที่โดนโจรกรรมส่งคืนเจ้าของได้ในที่สุด./
////////////////////////////////////////


ทีมข่าวภาคตะวันตก / กาญจนบุรี

ข่าวอาชญากรรม