สุนักเพศเมียสีแดงพันธุ์บูลลี่พิบูลคืนอ้อมกอดเจ้าของแล้วเจ้าของนํ้าตาซึม
สนักบูลลี่พิตบูลิพศเมียวัยซนกัดวัวชาวบ้านที่จะมากัดกินพืชผักในสวน ทำให้เจ้าของชดใช้วัวแลกวัวแถมเงินสดๆอีกหนึ่งหมื่น สามีเผลอภรรยาแอบนําสุนักบูลลี่พิบูลเอาไปทิ้งหน้าวัดจนเป็นภาระวัด หลวงพ่อเผยชาวบ้านไม่กล้าเข้าวัด จนโพสต์ในFB.ตัดเฟัอสอนเป็นธรรมถึงเจ้าของจนแชร์จิจารณ์สนั่นในโลกโชเชียล
โดยพระอภิเดช คุณสัมปันโน ได้โพสต์ข้อความลงใน(FB.พระอภิเดช คุณสัมปันโน)หลังมีคนเอาสุนัขพันธุ์ ‘พิตบูล’ มาปล่อยที่วัด จนทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าวัด โดยหลวงพ่อพร้อมระบุข้อความว่า…………..
“ประกาศ ไม่มีใครกล้าเข้าวัด กลัวหมา มีคนเอาสุนัขพิตบูล เพศเมีย มาทิ้งที่วัด เจ้าของไม่เลี้ยง แอบเอามาทิ้งได้ 3 วันแล้ว สืบทราบว่า ไปกัดวัวชาวบ้านตาย 2 ตัว เจ้าของเอามาทิ้งให้วัดเลี้ยง ทางวัดก็ไม่เข้าใจวิธีดูแล
ใครพอมีความสามารถ จะเอาไปดูแล เข้ามารับได้ ทางวัดไม่มีอาหารดูแล เพราะที่นี่ฉันหนเดียว อาหารบิณฑบาตก็แบบทั่วไป น้ำพริก ส้มตำ ปลาร้า แกงหน่อไม้ ไม่รู้เป็นอาหารสุนัขพันธุ์นี้ได้หรือไม่ ใครพอรู้จักผู้ที่เข้าใจนิสัยสุนัขพันธุ์นี้ ช่วยเอาไปดูแลด้วย
พิกัด สำนักสงฆ์ผาสุกวิหารธรรม บ้านไผ่ ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์”
ส.2ธ.ค.66 ช่วงสายๆเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวประจําจังหวัดสุรินทร์ หลังได้รับทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้เดินทางไปที่ สํานักสงฆ์ ผาสุกวิหารธรรม หมู่13 บ้านไผ่ ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ชึ่งสํานักสงฆ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้หนองขนาบ ถนนรัตนบุรั-ต.ระเวียง ภายในสํานักสงฆ์ผาสุกวิหารธรรม มีต้นไม้เล็กใหญ่และป่าไผ่ปกคลุมอย่างร่มรื่นพร้อมด้วยกุฎิพักสงฆ์ ตั้งเป็นแถวเรียงอย่างเป็นระเบียบ ในสํานักแห่งนี้มีพระภิษุสงฆ์จําวัดจํานวน2รูปและชาวบ้านที่มาปฎิบัติธรรมอีกจํานวนหนึ่ง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ขออนุญาติสอบถามพระวิ สุทธญาโณ หลังพระอภิเดช คุณสัมปันโณ ท่านไม่สะบายไม่สามารถมาพบผู้สื่อข่าวได้หลังโพสต์ตัดเฟ้อเรื่องที่มีชาวบ้านแอบนําสุนักบูลลี่พิบูลเพศเมียมาปล่อยภายในวัด(สํานักสงฆ์ผาสุกวิหาธรรม)ว่า…โดยพระวิสุทธญาโณ (ครูบาหมูทอง) รองเจ้าอาวาส ได้กล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า…ในกรณีที่เกิดขึ้นมีสุนักเข้ามาในสถานที่นี้ สุนักตัวนี้ทางวัดก็ไม่รู้หรอกว่าประวัติเป็นมาอย่างไร่ แต่เมื่อมาอยู่แล้วจึงได้รับทราบจากญาติโยมว่าสุนักบูลลี่พิบูลเพศเมียตัวนี้ได้เคยกัดวัวมา ก่อนเจ้าของสุนักนํามาทิ้งแบบแก้ปัญหาคือนําสุนักมาทิ้งที่วัด โดยส่วนหน้าที่ของวัดไม่ใช่มีหน้าที่มาอุปการะสุนัก คืออาหารทีบิตทบาทมาได้ก็เพียงแค่การฉันท์เพียงกับญาติโยมชึ่งสุนักเราก็ดูแลตามอัฒทภาพและที่วัดก็จะมีเพียงผู้สูงวัยและเด็กเข้ามาด้วยดังนั้นการทีมีสุนักที่เคยกัดมาอยู่ด้วยจะทําให้ญาติโยมที่มาทําบุญต่างหวาดระแวงไปด้วย ดังนั้นผู้ที่เลี้ยงสุนักควรจัดหาสถานที่ให้เขาอยู่เป็นสัดเป็นสวนจะดีไม่ออกมานอกบ้านไม่รบกวนคนอื่นไม่ทะเลาะเบาะแวงกัน…เจริญพร..(พระวิ สทธญาโณ กล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟัง..!!)
ส่วนนายอวยพร โฉมสะอาด อายุ66ปี 71หมู่13 บ้านไผ่ ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ชึ่งเป็นผู้ดูแลภายในวัดหรือสํานักสงฆ์ผาสุกวิหารธรรม แห่งนี้เล่าว่า…ตนเองได้รับทราบว่าสุนัก บูลลี่พิบูล เพศเมีย สีแดงตัวนี้เป็นของ นายบุญมี เจริญพร ชาวบ้านยาง หมู่6 ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี พระอภิเดช คุณสัมปันโน เจ้าอาวาสได้ให้จับนําสุนักไปส่งคืนเจ้าของตนจึงรีบจับสุนักไปคืนเจ้าของเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เพราะผู้มาปฎิบัติธรรมหวาดระแวงถึงอันตราย….(นายอวยพร เจริญพร กล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟัง)
ส่วนทางเจ้าของสุนักบูลงี่พิบูลเพศเมีย สีแดงชื่อนายบุญมี เจริญพร อายุ75ปี 82หมู่6 บ้านยาง ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เจ้าของสุนักเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า…ตนเองรักสุนักตัวนี้มากๆ เพราะภรรยาของตนได้แอบจับสุนักตัวนี้ใส่รถไปทิ้งที่วัด(สํานักสงฆ์ผาสุกวิหารธรรม) ชึ่งตนมารู้ที่หลังหลังจับไปปล่อยแล้ว สาเหตุที่ภรรยาตนจับไปปล่อยเพราะว่า สุนักพิบูลเพศเมียตัวนี้ ไปกัดวัวของเพื่อนบ้านเข้าหลังวัว ของเพื่อนบ้านจะเข้ามากัดกิดต้นไม้ ผัก ใบหญ้าในสวนของตนโดยสุนักตัวนี้กัดเข้าบริเวนปาก,ใบหู,และคอของวัวตัวดังกล่าวจนเจ้าของวัวเรียกค่าเสียหายไปถึง30,000 บาท(สามหมื่นบาท)ตนจึงตกลงขอนําวัวเพศเมียไปแลกกับ วัวเพศเมียของเพื่อนบ้านที่โดยสุนักพันธุ์บูลลี่พิบูลของตนกัดพร้อมเพิ่มเงินให้อีก10,000บาท(หนึ่งหมื่นบาท)
โดยมีชาวบ้านมาบอกให้ฆ่าทิ้งซะสุนักตัวนี้ หรือให้มูลนิธิสุนักเอาไปเลี้ยงแทน..แต่ตนจะขอเลี้ยงเขาจนถึงเฒ่าแก่เพราะตนรัก..ชอบนิสัยของเขาที่เป็นห่วงเจ้าของและออกไปจับหนูนา..ปลา..งู..มาให้ตนเป็นประจํา(นายบุญมี เจริญพร 75ปีเจ้าของสุนักกล้าวให้ผู้สื่อข่าวฟัง…)
/ภาพ/ข่าว/บุญเรือง เกษรจันทร์/สุรินท่ร์/รายงาน/
ติดต่อลงโฆษณากับสุรเดช เหลาคำ โทร0933427988
